ดูแบบคำตอบเดียว
  #71  
เก่า 23-02-2010, 02:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,458
ได้รับอนุโมทนา 4,406,282 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ยังต่ออีกว่า "ขนาดพระพุทธศาสนาของเรา เตรียมการร้อยกรองพระธรรมวินัยเอาไว้ และได้ทำอย่างทันท่วงที ก็คือหลังพุทธปรินิพพาน ๓ เดือน ถามว่าทำไมต้องหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานสามเดือน ? ก็เพราะต้องเตรียมการต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความขัดแย้ง มั่นใจว่ามีคนคัดค้านแน่

เพราะว่าพวกที่เห็นว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วเป็นการดี จะได้ไม่มีใครมาคอยควบคุม เขาจะคัดค้านแน่ จึงต้องขอมีมติสงฆ์ว่า บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังคายนา ห้ามเข้าไปในกรุงราชคฤห์

การจัดสังคายนานั้น ได้ขอการอุปถัมภ์จากพระเจ้าอชาติศัตรู ได้ถ้ำสัตบรรณคูหา เชิงเขาเวภาระ เป็นสถานที่สังคายนา ก็มีการจัดสถานที่ มีการเตรียมการต่าง ๆ จนพร้อมมูล แล้วจึงได้ดำเนินการสังคายนา ขนาดนั้นก็ยังมีการคัดค้านแล้ว พระปุราณะเถระ ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ มีบริวารมาก แต่อยู่ไกล คือ อยู่ถึงทักขิณาคีรีชนบท ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ประมาณเชียงรายหรือสุไหงโกลก

ท่านมาถึงทีหลัง การทำสังคายนาเสร็จไปแล้ว ทางคณะสงฆ์ก็ได้แจ้งให้ท่านทราบ ว่าได้ทำการสังคายนาไปอย่างนี้ ๆ พอท่านฟังเนื้อความแล้ว ท่านก็บอกว่า "ดูก่อน..อาวุโส สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำนั้นดีแล้ว แต่ว่าเราจะปฏิบัติเฉพาะสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา ต่อเบื้องพระพักตร์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น" พูดง่าย ๆ ว่าคุณจะทำก็ทำไป แต่ว่าผมจะปฏิบัติตามเฉพาะที่ผมได้ยินที่พระพุทธเจ้าท่านสอนมา จึงเริ่มมีเค้าลางการแตกกันตั้งแต่การทำสังคายนาครั้งที่ ๑"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-02-2011 เมื่อ 01:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา