ปัญญาในบารมี
ถาม : อย่างที่หลวงพ่อบอกว่า ตัวทานบารมีต้องประกอบไปด้วยปัญญา ศรัทธาก็ประกอบไปด้วยปัญญา แสดงว่าบารมีตัวอื่นก็ต้องประกอบไปด้วยปัญญาเหมือนกันหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ทุกตัวต้องเริ่มด้วยปัญญา ถ้าไม่เริ่มด้วยปัญญา ไม่รู้ว่าเป็นความดีแล้วใครเขาจะทำ ?
ถาม : แล้วอะไรทำให้เกิดปัญญา ?
ตอบ : ศีลเป็นตัวหนุนเสริม สมาธิเป็นตัวรองรับ เมื่อรวมกันแล้วจะเกิดเป็นปัญญา แล้วปัญญาก็จะมาควบคุมศีลและสมาธิอีกทีหนึ่ง
ถ้าไม่มีสมาธิที่เป็นพื้นฐานใหญ่นี่ ปัญญาก็โผล่มาหน่อยหนึ่ง ถ้ามีสมาธิรองรับก็สบาย..ไปได้เยอะ ความจริงการเสียเวลามาคิดว่าอะไรเป็นอะไร คนเรามักอดไม่ได้ ก็มาคิด แล้วก็เสียเวลาคิดจริง ๆ เดี๋ยวก็จะฟุ้งซ่านเหมือนเพื่อนอาตมา เขาอยู่มาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ จนป่านนี้ก็ถาม ๆ ๆ ท้ายสุดก็สรุปว่ายังขี้เกียจอยู่ อย่างวันนี้ก็เห็นแล้ว อยู่ ๆ จะมาชักใบให้เพื่อนเสีย เขากำลังไปดี ๆ มาบอกให้เพื่อนลาพุทธภูมิ เขามาสายไหนเธอรู้เรื่องไหมนั่น เดี๋ยวก็มาสงสัยว่าพุทธภูมิคืออะไร แล้วก็เสียเวลาไปคิดไปฟุ้งอีก
ถาม : เขาทำแบบนั้นผิดกรรมบถ ๑๐ ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่ากำลังใจเขายังไม่ถึง เขาก็ไม่รู้สึกตัว ถ้าหากว่าคนกำลังใจสูงกว่าก็จะเห็นว่าใช่ แต่คนที่อยู่ในระดับนั้นจะไม่รู้ว่าใช่
ถาม : แล้วจะลงนรกไหมคะ ?
ตอบ : ถ้ายังไม่ถึงขนาดแนะนำให้เป็นมิจฉาทิฏฐิก็ไม่ไปไกลหรอก ต้องบอกว่าหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ความหวังดีกลายเป็นทำให้คนอื่นเสียหาย
ถาม : ก็ไม่ใช่กัลยาณมิตร ?
ตอบ : ใช่เหมือนกัน แต่คุณสมบัติไม่ครบ
ถาม : ที่หลวงพ่อว่ามาต้องพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณเลยนะ ถึงขยายความข้อธรรมได้อย่างนี้ ?
ตอบ : ไม่แน่..เพราะว่ามี สุตตพุทธะ รู้เพราะได้รับฟังมามาก ศึกษามามาก สัมมาสัมพุทธะ รู้เองโดยชอบ ปัจเจกพุทธะ รู้เฉพาะตนเท่านั้น อนุพุทธะ รู้ตามผู้อื่น
เทศน์ก่อนทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๒
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2013 เมื่อ 12:19
|