ท่านพาทำความเพียรไม่หยุดหย่อน ไม่มีกลางวันกลางคืน แต่ข้าพเจ้ามักจับไข้ตอนเที่ยงหรือบ่ายโมง หนึ่งชั่วโมงก็สร่าง แต่ปวดหัวอยู่มับ ๆ แต่ฉันได้ ไปได้ ไม่เพลียนัก ๒ - ๓ วันครั้งหนึ่ง แต่ตอนกลางคืนไม่ค่อยไข้
วันหนึ่ง พระอาจารย์มหาเอายาควินินเคลือบน้ำตาลให้ฉัน ก็เลยฉัน ๖ เม็ดทีเดียว หูดับอยู่ทั้งวัน เลยไม่ฉันอาหาร ปล่อยให้ยาออกฤทธิ์คุ้มได้ ๑๕ วัน.. ไข้อีกอยู่อย่างนั้น แต่ตักน้ำกวาดลานวัดอยู่ พาไข้เดินจงกรมอีก ไข้แบบนั้นก็มี (เป็น) ไข้รากสาด มุทะลุแบบนี้ก็คงจะตายกัน
ครั้นพักทำความเพียรอยู่นั้นประมาณเกือบเดือน พระอาจารย์มหาพาย้ายเข้าไปในดง ไกลจากที่พักเดิมประมาณ ๑๓ เส้น ส่วนน้ำนั้นมาตักเอาที่เก่า ไปบิณฑบาตบ้านพระคำภูตามเดิม เขามาทำร้านให้ ปูไม้กลมเล็ก ๆ กว้างพอดีกลด ไกลจากพระอาจารย์มหาประมาณ ๒ เส้น แต่กรรมบันดาลอีก เขาเอาไม้กลมเล็กมาปูต่างฟากให้นั้น มีไม้น้ำเกลี้ยงปนอยู่ ๒ - ๓ ท่อน พอพักได้ ๓ - ๔ วัน หน้าบวมขึ้นเห็นหน่วยตาลูกตาพอริบหรี่
พระอาจารย์มหาหัวเราะแล้วพูดว่า ยิ่งขี้ร้าย ก็ยิ่งตื่ม (เพิ่ม) ตดเหม็น
แล้วองค์ท่านไปตรวจดูร้าน ก็เห็นไม้น้ำเกลี้ยง ๒ - ๓ ท่อน เขาเอามาลาดปูนอนให้ปนกับไม้อื่นอยู่ จึงคุมให้โยมถอดทิ้งเอาใหม่แทน เมื่อพิจารณาแล้วเขาไม่ได้แกล้งทำ เพราะเป็นเวลาใบไม้ร่วง เขาไม่รู้จักว่าไม้อะไร เห็นเกลี้ยงกลมแล้วก็เอากัน ทั้งทำด่วนด้วย ไม่ได้กั้นไม่ได้มุงอะไรหรอก เช้ามามุ้งก็เปียก กลดก็เปียกตากกับที่เลย นี้การเที่ยวในสงสารแห่งชาติ ๆ ภพ ๆ มันเป็นอย่างนี้...
หมายเหตุจากผู้ตรวจการณ์ : ไม้น้ำเกลี้ยง คือ ไม้รักเขา หรือ ต้นรักที่เอายางมาทาเพื่อปิดทอง ยางรักเป็นอันตรายมาก ถ้าโดนเข้าโดยตรงถึงกับกัดเนื้อแหว่งทีเดียว
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2013 เมื่อ 17:55
|