"เรื่องของการสรรหาเจ้าอาวาสในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอาตมา เพราะว่าถ้าเราส่งคนที่กำลังใจยังไม่ได้ที่ไป จะมีปัญหากับชาวบ้าน ต้องส่งไปประเภทที่ฟังเขาด่าก็ไม่เป็นไร ฟังคนชมก็ไม่เป็นไร ประมาณนั้น
อาตมาเองก็ทำตัวอย่างให้พระครูปลัดปรีชาท่านดู ตั้งแต่สมัยอยู่วัดทองผาภูมิ ที่บรรดาคณะสงฆ์เขากลัวว่าอาตมาจะเป็นเจ้าคณะอำเภอ ก็เลยระดมพลกันมาด่าในลักษณะคัดค้าน ยกเอาข้อผิดพลาดอะไรแม้แต่เล็กน้อยในชีวิตทุกอย่างขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้ดูว่าอาตมาเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ไม่สมควรกับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ
แม้กระทั่งการนำโยมอาราธนาศีล เขาบอกว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ อาตมาเองก็ขำ ๆ ถึงเวลาก็ส่งไมค์ให้ทีละรูป ท่านนี้มีอะไรจะพูดก็ว่าไป พูดเสร็จก็ส่งให้อีกรูป ท่านนี้มีอะไรจะพูด พระครูปลัดปรีชานี่แหละที่โมโหจนหัวล้านแดงเลย บอกว่า "เขาด่าอาจารย์นะ อาจารย์ยังใจเย็นไปส่งไมค์ให้เขาด่าอีก" "ก็ปล่อยเขาด่าเหนื่อยไปสิ ผมไม่ได้เหนื่อย ผมแค่ฟังเฉย ๆ"
หลังจากนั้นอาตมาเองทำตัวเป็นปกติ เจอหน้าแต่ละท่านก็ยังคงกราบยังคงไหว้เหมือนเดิม ยังคงพูดดีด้วยเหมือนเดิม ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ล้วนแต่ทำท่าสยองขวัญ เหมือนกับว่าอาตมาจะฆ่าท่านเมื่อไรก็ไม่รู้ ? ตอนหลังเจ้าคณะอำเภอรูปปัจจุบันนี้ท่านยังบอกว่า "ผมเองเข้าใจพระอาจารย์เล็กผิดไป ผมคิดว่าท่านจะเป็นคนอย่างที่เขาว่ามา"
ถ้าเราอยู่ท่ามกลางที่สาธารณะให้คนอื่นเขาก่นด่าได้ตามความสบายใจ ก็แปลว่ากำลังใจพอที่จะรับมือกับกิเลสได้แล้ว คนด่าแล้วเรายิ้ม แถมยังถามคนต่อไปว่ามีอะไรจะด่าอีกไหม ? พวกเราลองไปทำดูก็แล้วกัน ห้ามหัวร้อนเด็ดขาด ถ้าหัวร้อนแล้วจะเป็นอย่างท่านพระครูปลัดปรีชานั่นแหละ หัวล้านแดงอย่างนั้น พระครูปลัดปรีชาท่านอายุน้อยกว่าอาตมา ๕ ปี ตอนนี้หน้าผากยาวไปจะถึงท้ายทอยแล้ว หัวร้อนบ่อยผมร่วงเกลี้ยงเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2017 เมื่อ 02:06
|