ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 20-01-2012, 11:40
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ธัมมวิจัย เกี่ยวกับธรรมของร่างกายที่ทรงตรัสสอนในข้อ ๘ นี้ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๔ ก.พ. ๒๕๕๒ ทางคริสต์ศาสนาเขาสมมุติว่า เป็นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก เขาก็แสดงความรักกันในแบบต่าง ๆ ตามจริตนิสัย และกรรมของแต่ละคนซึ่งมีมาไม่เสมอกัน ก็เป็นกรรมของเขา ให้มองให้เห็นเป็นของธรรมดา ให้เอากรรมหรือการกระทำของเขามาเป็นครูสอน เราก็จะได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก ขอเขียนแยกเป็นข้อ ๆ ดังนี้

๘.๑ ในฐานะที่พุทธศาสนาสอนให้คนเห็นทุกข์ตามความเป็นจริง เพราะหากผู้ใดยังไม่เห็นทุกข์ตามความเป็นจริงได้ ก็ไม่สามารถจะพ้นทุกข์ได้ในชาติปัจจุบันนี้

๘.๒ ปุถุชนย่อมคิดว่า ร่างกายหรือขันธ์ ๕ เป็นเขาเป็นของเขา เป็นธรรมดา อารมณ์นี้คืออารมณ์หลง หลงคิดว่ากายเป็นเรา เป็นของเรา เมื่อเริ่มต้นผิด จิตเป็นมิจฉาทิฏฐิ ยิ่งคิด-ยิ่งพูด-ยิ่งทำ ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิหรือผิดตลอดกาล เขาไม่เห็นทุกข์จากการมีร่างกาย แล้วยังคิดว่า โลกนี้เป็นสุขน่าอยู่น่าอาศัย รวมทั้งขันธโลกของร่างกายของเขา ก็น่ารัก น่าถนอม น่าบำรุงบำเรอให้มันเป็นสุขยิ่งขึ้น จึงแสดงกรรม หรือการกระทำในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มความทุกข์ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นกับจิตตนเอง ซึ่งก็เป็นธรรมดาอีกนั่นแหละ เพราะเขาไม่รู้ว่า ตัวจริง ๆ ของเขาคือ จิตที่มาอาศัยร่างกายอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น

๘.๓ จุดที่เขาหลงมากที่สุดคือ ไม่เห็นความไม่เที่ยง ความทุกข์ ความสกปรก ซึ่งมีขี้ทั้งตัวตั้งแต่หัว อันมีขี้หัว ขี้เหงื่อ ขี้ไคล ไหลออกมาอยู่บนหัวเขาตลอดเวลา ต่ำลงมาก็ขี้ตา ขี้มูก ขี้ปาก ขี้เหงื่อ เสลด น้ำลาย ขี้เต่า ลงไปจนถึงขี้มือ ขี้ตีน สรุปขี้ทั้งตัวกลับไม่เห็น เพราะความหลงปิดตา-ปิดใจไว้หมด ยิ่งลอกหนังหุ้มกายออกแล้ว จะเห็นน้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง เสลด น้ำลาย อาหารเก่า อาหารใหม่ น้ำดี ขี้เยี่ยวทั้งตัว เป็นต้น หากเขาเห็นความจริงตามนี้ เขาคงไม่อยากจะเกิด มาล้างขี้ ล้างเยี่ยว ล้างสิ่งปฏิกูลสกปรกที่ตัวเขาทุก ๆ วันอีก เป็นขี้ข้ารับใช้มัน หลงมากก็เช็ดถู หาของมาบำรุง-บำเรอมันอยู่เกือบตลอดเวลา แล้วยังหลงคิดว่า มีความสุขเสียอีกที่ได้รับใช้มัน จึงมีสภาพเหมือนติดคุกที่มีขี้ทั้งตัวตลอดชีวิต หรือต้องเลี้ยงลูกอ่อนตลอดชีวิต หมายความว่า ต้องป้อนข้าว อาบน้ำ เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยว ให้มันทุกวันตลอดชีวิต ไม่มียกเว้นแม้แต่วันเดียว ก็ขอเขียนไว้เพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น

๘.๔ ทุก ๆ ปียังย้ำความหลงให้กับตนเอง เพราะกลัวจะลืมความหลงร่างกายของตนเอง แล้วยังชักชวนผู้อื่นให้หลงตามตนด้วยอุบายต่าง ๆ พวกชาวพุทธตามสำมะโนครัว ขาดปัญญาก็หลงตามเขาไป ทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นชาวพุทธ มิใช่ชาวคริสต์ ก็เป็นธรรมดาอีกนั่นแหละ จะไปว่าชาวคริสต์ก็ไม่ถูก เพราะชาวพุทธส่วนใหญ่ก็ยังหลงคิดว่า ร่างกายเป็นเรา เป็นของเราอยู่จำนวนมาก จึงฉลองความแก่ของตน ยินดีปรีดาด้วยกับความแก่ของตนเอง โดยจัดงานฉลองวันเกิดของตน ฉลองวันปีใหม่กันอย่างขาดสติเกินพอดี จนมีอุบัติเหตุถึงตายกันมากทุก ๆ ปี สำหรับพวกพุทธแท้ ท่านเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ซึ่งไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ท่านเอาปัญญาเร่งรัดปฏิบัติจิตตนเอง ให้ละความโลภ โกรธ หลง ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา หรือทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้กิเลสของท่านลดน้อยลงตามลำดับ มุ่งเอาจิตเข้าสู่พระนิพพานจุดเดียว หากร่างกายเกิดตายขึ้นมาด้วยอุบายสั้น ๆ ว่า รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน (ผมไม่ขอเขียนรายละเอียด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา