ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 08-02-2010, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การพิจารณาว่าร่างกายเป็นแค่ธาตุสี่ กับพิจารณาว่าร่างกายเป็นของสกปรก จริง ๆ แล้วการพิจารณาธาตุสี่ นี่ระดับสูงกว่าหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเห็นจริง จะไปจบลงที่ปล่อยวาง เพราะเห็นชัดว่าไม่มีอะไรเป็นของเรา ก็ต้องสูงกว่า แต่ถ้าเห็นว่าสกปรก กำลังยังไม่เกินพระอนาคามี

ถาม : ช่วงสมัยเด็ก ๆ หนูนั่งมองมือตัวเอง มือก็วางนิ่ง ๆ อยู่ แล้วเกิดความรู้สึกว่า มือนี้ไม่ใช่มือเรา มันเป็นท่อน ๆ เป็นอะไรก็ไม่รู้ ก็เป็นลักษณะของธาตุสี่เหมือนกันใช่ไหมคะ ?
ตอบ : น่าจะมีของเก่าตามมา เห็นว่าเป็นอะไรก็ไม่รู้ จะบอกว่าเป็นธาตุสี่ก็ยังไม่ใช่ แต่เห็นว่าไม่ใช่ของเรา

ถาม : แต่พอพิจารณาไปจริง ๆ มันกลับไม่มีอารมณ์ให้เกิดขึ้นค่ะ มันเกิดแบบฟลุก ๆ อย่างไรก็ไม่ทราบ
ตอบ : เหมือนกับพระราชาที่ไปเลียบพระนครแล้วก็เช็ดเหงื่อทีหนึ่ง บังเอิญคิดได้ตอนนั้น

ถาม : เร็ว ๆ นี้ หนูนอนภาวนาหลับไป ปรากฏว่าใจไม่หลับ ก็ฟลุกอีกแล้วค่ะ
ตอบ : ฟลุกอีกแล้ว ก็ทำใหม่สิ..!

ถาม : ได้ทีเดียวเอง
ตอบ : ถ้าสั่งได้จะได้เลิกฟลุก ถ้าสั่งไม่ได้ก็ยังฟลุกอยู่นั่นแหละ

ถาม : พอได้แค่นั้นก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ ก็คืออยู่เฉย ๆ หรือคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ แต่กำหนดรู้ไว้เฉย ๆ แล้วพยายามสังเกตอารมณ์ใจว่า จุดที่นิ่งอยู่แล้วรู้ได้ทั้ง ๆ ที่หลับเป็นอย่างไร แล้วรักษาเอาไว้ตรงนั้น ถ้าหากเราคลายนิดเดียว สติขาดจะหลับไปเลย แต่ถ้าหากรักษาระดับนั้นเอาไว้ได้ ต่อไปจะหลับจะตื่น กำลังใจจะเท่ากัน

ถาม : หนูสังเกตว่า จริง ๆ แล้ว คล้าย ๆ กับตอนภาวนาแล้วหลุดออกไปใช่ไหมคะ เพียงแต่ตอนนั้นหลุดจากร่างกาย อันนี้อยู่กับร่างกาย
ตอบ : จ้ะ

ถาม : สมัยก่อนเวลาที่มีความคิดที่เน่า ๆ เศร้า ๆ หนูจะลงไปมั่วกับมัน แล้วไร้ทางสู้เลยค่ะ แต่หลัง ๆ เริ่มบังคับได้แล้ว พอมันมาก็หันหน้าหนีได้ แต่หนูมีความรู้สึกว่า ลักษณะแบบนี้ ก็ยังอยู่ในระดับปุถุชนอยู่
ตอบ : อันดับแรกก็คือ ต้องหยุดให้ได้ ตัวหยุดให้ได้ก็คือ ทำอย่างไรที่จะให้เราไม่ไปคิดนึกปรุงแต่ง ตาเห็นต้องหยุดอยู่แค่นั้น หูได้ยินเสียงต้องหยุดอยู่แค่นั้น

เพราะฉะนั้น..วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ ต้องอยู่กับสมาธิภาวนา ถ้าอยู่กับสมาธิภาวนา เราไม่คลายออกมา กระทบปุ๊บ สติและปัญญาเราจะรู้รอบเลยว่า ควรจะรับไว้หรือไม่ควรจะรับไว้ ถ้าควรจะรับไว้ มีความสนใจระดับไหน จะขยายออกรับรู้แค่นั้น แล้วก็รีบหลบกลับมา แต่ถ้าหากไม่ควรจะรับไว้ ก็ตัดทิ้งปล่อยไปเลย ก็แค่ประเภทสักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน

ไปเริ่มต้นใหม่ได้ คราวนี้เหลืออยู่ตรงสมาธิแล้ว ถ้าสมาธิทรงตัวมาก ปัญญาก็เกิด แล้วก็จะรู้ว่าควรจะเลือกตรงไหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-02-2010 เมื่อ 09:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา