ถาม : กลัวว่าจะอยู่วัดไม่ได้ค่ะ
ตอบ : นั่นแหละความกลัว กลัวว่าอยู่ไม่ได้ ถึงเวลาออกมาหางานไม่ได้ เขาเรียกว่าฟุ้งซ่านถึงอนาคต นัปปฏิกังเข อนาคะตัง เขาห้ามคิดถึง
ถาม : หนูเคยอยู่ที่...?
ตอบ : ที่ไหนก็เหมือนกัน กิเลสท่วมหัวพอกัน..!
ถาม : เราไม่ต้องการอย่างนั้น ไม่ต้องการจะเปลี่ยนใครบางคน ?
ตอบ : เราก็พัฒนาตัวเราเองสิ จะไปสนใจอะไรกับจริยาคนอื่น เขาจะเป็นอย่างไรก็ช่างหัวเขา กาย วาจา ใจ ของเราต่างหากที่สำคัญที่สุด
ถาม : หนูกลัวว่า...?
ตอบ : ไม่ต้องกลัวหรอก ที่ไหนก็เหมือนกัน บอกแล้วว่าให้ไปตัดสินใจเอาเอง ไม่ต้องมาโอดครวญหรือเล่าเรื่องให้ฟัง
ถาม : หนูตัดสินใจไม่ถูกค่ะ ?
ตอบ : อาตมาแค่รับรู้เฉย ๆ ไม่ประกันอนาคตให้ใครหรอก แก่ ๆ อาจจะต้องตะเกียกตะกายกลับมาหากินเองก็ได้ แทนที่จะให้กำลังใจ ยิ่งซ้ำใหญ่เลย
ถาม : พี่น้องหนู...?
ตอบ : โอ๊ย...ยกให้เขาไปเถอะ ถ้าอาตมามัวไปคิดป่านนี้ไม่ได้บวชหรอก เขายืมสตางค์ไปเล่นแชร์แม่ชม้อยเป็น ๑๐ คันเลย ทุกวันนี้เสียดายอยู่อย่างเดียวว่า พวกนั้นไม่เข้าวัดเลยเพราะอาตมาอยู่ในวัด ไปคิดให้ดี ๆ ขึ้นหน้าก็ตาย ถอยหลังก็ตาย ขึ้นหน้าไปตายดีกว่า เขายังชมว่าเรากล้า หรือไม่ก็บ้าไปเลย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2016 เมื่อ 00:54
|