ดูแบบคำตอบเดียว
  #34  
เก่า 13-07-2009, 11:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,632 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "วันก่อนอ่านหนังสือ เขาบอกว่าโรคเรื้อนเป็นโรคที่มีมาแต่โบราณ เพราะไปค้นเจอโครงกระดูกโครงหนึ่งที่มันมีลักษณะการเปื่อยของคนเป็นโรคเรื้อน เขาก็เลยคาดว่าโรคเรื้อนที่มันระบาดไปทั่วโลก มันเกิดจากการที่พระเจ้าอเล็กซ์ซานเดอร์มหาราชยกกองทัพมาตีอินเดีย

จะว่าไปแล้วฝรั่งเขารู้ช้ามาก ที่รู้ช้ามากเพราะอะไร พระพุทธเจ้าท่านห้ามผู้เป็นโรคเรื้อนบวชมาสองพันกว่าปีแล้ว กุฏฐัง ก็คือโรคเรื้อน ถึงเวลาพระคู่สวดเขาสอบถาม คัณโฑ ก็คือ พวกหิด กลาก

จริง ๆ แล้วท่านไม่ได้ห้าม แต่ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากหมอชีวกโกมารภัจจ์ หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นสุดยอดของหมอเลย ท่านศรัทธาในพระภิกษุของพระพุทธศาสนามาก ถวายการรับใช้พระพุทธเจ้าและพระภิกษุเป็นปกติ ถ้าท่านเอื้อมมือไปรักษาแปลว่าหายทุกโรค ก็ปรากฏว่าบรรดาคนป่วยไปอ้อนวอนให้ท่านรักษา ท่านบอกว่าท่านไม่มีเวลา เพราะว่านอกจากจะเป็นแพทย์ประจำพระองค์ถวายการรักษาพระเจ้าแผ่นดินแล้ว ยังต้องถวายการรักษาพระพุทธเจ้าและพระ

พวกคนป่วยเห็นดังนั้น คิดว่าในเมื่อรักษาพระ เราก็บวชเสียเลยแล้วก็ไปให้รักษา หมอชีวกโกมารภัจจ์ท่านก็แปลกใจว่าทำไมระยะนี้พระป่วยเยอะ ลำพังแปลกใจมันไม่เท่าไหร่ ปรากฏว่าพอพระเหล่านั้นหายจากอาการ ก็สึกเลย ก็แปลว่าเขาตั้งใจบวชมารักษา พอหายแล้วก็สึก หมอชีวกโกมารภัจจ์ก็ไปเจอกลางทาง รู้ความจริงเข้าว่าท่านบวชมาเพื่อให้รักษา

หมอชีวกโกมารภัจจ์ก็ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า เพราะว่าภาระท่านมาก เรียกได้ว่ามัวแต่ถวายการรักษาพระอยู่จนบกพร่องในการถวายการรักษาพระเจ้าแผ่นดิน ตั้งแต่นั้นมาพวกโรคต่าง ๆ ที่รักษายาก ตั้งแต่พวกโรคเรื้อน โรคกลากเกลื้อน โรคฝี วัณโรค โรคลมชัก สมัยนั้นรักษายากเพราะสมุฏฐานไม่ชัดเจน ขนาดสมัยนี้บางทียังวินิจฉัยผิด ท่านก็เลยสั่งห้ามเป็นโรคร้ายแรง ถ้าหากว่าใครเป็นห้ามบวช เพราะเป็นวิบัติก็คือคุณสมบัติไม่ครบถ้วน

ถ้าหากว่าไปบวชแล้วเป็น ถือว่าไม่โกหก ไปเป็นเอาตอนบวชก็พยายามรักษาไปเถอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 23-07-2015 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา