ดูแบบคำตอบเดียว
  #156  
เก่า 19-10-2016, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,538 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้พวกเราส่วนหนึ่งไปบ้านสายลมกันมา แม้ว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านจะจากเราไป ๒๔ ปีแล้ว พวกเราก็ยังคงจัดงานวันเกิดให้ท่านตามปกติ เหมือนกับว่าท่านยังมีชีวิตอยู่ ลักษณะอย่างนี้แหละที่โบราณกล่าวว่า "ตัวตายแต่ชื่อยัง" ก็คือ แม้ว่าหลวงพ่อท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว ด้วยความที่ท่านสร้างสมคุณงามความดีเอาไว้มาก ถึงเวลาชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านก็ยังเป็นที่เคารพนับถืออยู่ในหมู่คณะศิษย์ มีการจัดงานเพื่อการระลึกถึงอยู่เสมอ

ญาติโยมลองนึกดูว่า ในสมัยที่หลวงพ่อท่านยังอยู่ เวลาจัดงานแต่ละครั้ง มีบรรดาพระที่ให้ความเคารพเลื่อมใสท่าน ไปในฐานะลูกศิษย์ประมาณสามร้อยรูปเศษ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านกล่าวว่า
"พระเหล่านี้ที่มา ต่อไปข้างหน้าถ้าท่านไปบอกกับคนอื่นว่าเป็นลูกศิษย์ของข้า ข้าก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่ให้พวกแกดูด้วยว่า มีใครที่ดำเนินรอยตามปฏิปทาของข้าหรือไม่ ? ถ้าท่านดำเนินตามปฏิปทาเดิมที่ข้าได้ทำเอาไว้ ท่านเหล่านั้นจึงจะถือว่าเป็นลูกศิษย์ของข้าที่แท้จริง"

ถ้าเรานึกย้อนไปสมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงปู่ปานจัดงานแต่ละที เรือจอดแน่นแม่น้ำชนิดเดินข้ามฝั่งได้เลย คนเป็นหมื่น อาตมาถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า "ระหว่างหลวงพ่อกับหลวงปู่ปาน ถ้านับแล้วใครดังกว่ากัน ?" หลวงพ่อตอบว่า "หลวงปู่ปานดังกว่า ข้าจัดงานสมัยนี้คนเป็นแสน แต่มีวิทยุ มีหนังสือพิมพ์ มีทั้งโทรศัพท์ สมัยโน้นหลวงปู่ไม่มีอะไรเลย นอกจากบอกกันปากต่อปาก"

หลวงปู่ท่านเลี้ยงทั้งพระทั้งเณรเอาไว้จำนวนมหาศาล เพราะท่านเปิดสอนบาลีด้วย หลวงปู่ปานเรียนบาลี ถ้าสมัยนี้ท่านต้องจบประโยค ๘ เพราะท่านแปลวิสุทธิมรรคได้ ชนิดตั้งวิเคราะห์ได้ทุกตัว แต่หลวงปู่ปานไม่ได้ไปสอบ เรียนเอาความรู้เฉย ๆ เพื่อไปแปลพระไตรปิฎกแล้วปฏิบัติให้ตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน

ลูกศิษย์พระเณรที่ศึกษากับหลวงปู่ปาน ไม่ว่าจะศึกษาบาลีก็ดี ศึกษากรรมฐาน หรือศึกษาวิชารักษาโรคก็ตามเกินสามร้อยรูป แล้วทำไมถึงได้มีบุคคลที่กล่าวได้ว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ปานอยู่แค่นับนิ้วได้ ? แค่มือเดียวยังนับไม่หมดอีกด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-10-2016 เมื่อ 05:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา