ดูแบบคำตอบเดียว
  #59  
เก่า 27-03-2013, 09:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,668 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกที่เดินเท้าอย่างเช่นอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ เดินจากเชียงใหม่ไปเกาะสมุย โดยตั้งใจว่าจะไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว มีคนช่วยไปตลอดทางจนไปถึงเกาะสมุย หรือไม่ก็พวกขี่จักรยานรอบโลก ไปตรงไหนก็มีคนสงเคราะห์ เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เกิดจากเรื่องของบุญของกรรมที่เนื่องกันมาตั้งแต่อดีต พอถึงเวลาก็ต้องมาสงเคราะห์ต่อกัน

อาตมาเองสมัยเรียนชั้น ป. ๑ - ป. ๔ มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งไม่รู้เป็นอย่างไรจะคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด ที่บ้านอาตมามีฐานะค่อนข้างจะยากจน ปีทั้งปีแทบจะไม่มีสตางค์ไปโรงเรียนเลย มีแต่ข้าวห่อไป เพื่อนคนนี้จะคอยซื้อขนมมาให้ตลอด ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ดีเหมือนกัน ไม่ได้เรียกร้อง ไม่ได้รู้จักมักจี่สนิทสนมกันมาก่อน รู้อยู่อย่างเดียวว่าพอถึงเวลาเขาจะต้องมาช่วยเรา เขาเองก็คงงง ๆ อยู่เหมือนกัน

ดังนั้น..ของพวกนี้ เราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่า “บุคคลที่เกิดมาพบกันในชาติปัจจุบันนี้ ในอดีตไม่เคยมีความสัมพันธ์กันมาเลยนั้นไม่มี” อย่างน้อย ๆ ต้องเคยเป็นอะไรกันมาก่อน เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นหลาน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นสามีภรรยา เป็นครูบาอาจารย์ เป็นศิษย์ เป็นเพื่อน แล้วมาเจอกันชาติใหม่ ก็มาเกื้อกูลกันต่อไป มาเข็นกันหรือมาถ่วงกัน มาเข็นกันนี่ยังพอไหว อย่างน้อย ๆ ก็ยังพยายามขึ้นหน้า แต่ประเภทมาถ่วงกันนี่เล่นเอาเราไปไหนไม่ได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2013 เมื่อ 14:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา