พระโมคคัลลาน์พระสารีบุตร ... นิพพาน
“... พระสารีบุตรมีฤทธาศักดานุภาพมาก มาทูลไปนิพพาน วันนั้นพระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ‘เออ นี่สารีบุตร เธอจะนิพพานแล้ว มีอะไร ๆ ก็ฝากน้อง ๆ ไว้เป็นที่ระลึก’
พระองค์แย้มเท่านี้เอง ... พระสารีบุตรก็แสดงฤทธิ์เต็มเหนี่ยว พระโมคคัลลาน์เหมือนกัน เหาะขึ้นเหาะลงอะไร วันนี้ประตูพระเชตวันเปิดหมดเลย บรรดาพระทั้งหลายที่อยู่ในวัดนี้ จะไปส่งพระสารีบุตรซึ่งเป็นพี่ของเธอทั้งหลายให้ไปได้ จะไปนิพพานที่ห้องประสูติ คือจะไปโปรดแม่ในวาระสุดท้าย แม่เป็นมิจฉาทิฐิ พระสารีบุตรก็ไปแสดงฤทธิ์ให้แม่เห็น
เริ่มแต่แสดงฤทธิ์ให้เทวดาชั้นต่าง ๆ ลงมา พระสารีบุตรเปิดโอกาสให้ทั้งเทวดาทั้งแม่ได้เห็นกันชัดเจน เหมือนเรามองเห็นกัน พอเทวดาชั้นนี้เคลื่อนออกไปก็เข้ามาถามลูก ลูกก็บอกว่านี่เทวดาชั้นนั้น เดี๋ยวมาอีก ๆ ฟังให้ดีนะ บรรดาเทวดาทั้งหลายมาเป็นชั้น ๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง.. การแต่งเนื้อแต่งตัว รูปร่างลักษณะทุกอย่าง ๆ จะละเอียดลออขึ้นเรื่อย ๆ แม่ดูอยู่ เพราะแม่เป็นมิจฉาทิฐิไม่ยอมฟังเสียงลูกเลย
เวลาลูกจะมานิพพานยังบอกว่า ‘เออ อุปติสสะออกไปบวชแล้ว แก่จนขนาดนี้จะยังมาสึกอะไรกัน’
คือนึกว่าลูกจะมาสึก พระสารีบุตรจึงอบรมสั่งสอนแม่ ท้าวมหาพรหมมาเป็นวาระสุดท้ายเหลืองอร่ามไปหมด มหาพรหมเป็นหัวหน้าลงมา พระสารีบุตรก็เทศน์โปรดแม่ แม่ร้องไห้นะ
‘โอ้โห ลูกเราเป็นอย่างนี้เชียวเหรอ นึกว่าจะมาสึกบั้นแก่’
แล้วมาเป็นอย่างนี้ให้เราเห็น แม่เกิดความสลดสังเวช ร้องห่มร้องไห้ เหล่านี้เหมือนกับสามเณรของอาตมา ฟังซินะ ตั้งแต่ท้าวมหาพรหมลงมานี้เท่ากับสามเณรของอาตมานั่นแหละ ก็ยิ่งเห็นชัดเจนว่าลูกของเรานี้ใหญ่โตขนาดไหน ยิ่งอัศจรรย์ พอเสร็จจากนั้นท่านก็นิพพาน...”