"ถ้าพูดถึงกะลาตาเดียวแกะเป็นรูปราหู ที่มีชื่อเสียงจริง ๆ คือหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ถัดมาจากหลวงพ่อน้อยมาก็คือหลวงพ่อปิ่น ที่เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิ ช่วยหลวงพ่อน้อยทำพระราหูมาตั้งแต่แรก
พระราหูกะลาตาเดียวของหลวงพ่อน้อยกับหลวงพ่อปิ่น บางทีลายมือก็มั่วกัน หลวงพ่อน้อยทำ หลวงพ่อปิ่นช่วยจารอะไรอย่างนี้ ของหลวงพ่อปิ่นเลยพยายามแกะให้มีศิลปะแตกต่างกันออกไปหน่อยหนึ่ง ถ้าแน่ ๆ ต้องจำลายมือได้ด้วย แต่ของหลวงพ่อน้อยจะใช้วิธีจำลายมืออย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่าบางทีลูกศิษย์ก็ช่วยกันจาร เนื่องจากเวลาตามฤกษ์มีพักเดียว ต้องเตรียมแกะกะลาล่วงหน้าเอาไว้ แล้วช่วยกันจารตอนพระราหูเริ่มคายพระอาทิตย์
พอพระราหูเริ่มคายพระอาทิตย์ก็เริ่มจารกัน พอพระราหูคายเสร็จก็เลิก คือจากไม่ดีมากลับเป็นดี พอกลับคืนดีเป็นปกติก็เลิกจาร มีฤกษ์อยู่แค่พักเดียวเท่านั้น
ส่วนอีกสำนักหนึ่งทางเหนือคือครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ท่านดังสารพัดเหมือนกัน แบบเดียวกับหลวงพ่อน้อย หลวงพ่อน้อยทำพระราหูกะลาตาเดียวก็ดัง ทำวัวธนูก็ดัง ครูบานันตาเหมือนกับหลวงพ่อน้อย เพราะว่าท่านก็ทำพระราหูกะลาตาเดียว ทำวัวธนู แต่ของครูบานันตาแยกได้ ท่านเล่นครั่งจีนสีแดงโร่เลย ไม่ใช่ครั่งดำ ๆ แบบของหลวงพ่อน้อย ทางด้านครูบาอาจารย์ของท่านคือครูบาเจ้าอโนชัย วัดปงสนุก ก็ทำพระราหูกะลาตาเดียวเหมือนกัน แต่ว่าลูกศิษย์ดังกว่าพระอาจารย์"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-04-2017 เมื่อ 19:48
|