พระอาจารย์กล่าวว่า "ในระยะที่มีการ "ล็อกดาวน์" ตาม พรก.ฉุกเฉิน ทางวัดท่าขนุนก็ปิดวัดตามไปด้วย คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า ยกเว้นการบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณร และญาติโยมบางท่านซึ่งมีหน้าที่นำเอาอาหารสดเข้ามาในวัด แต่ก็ต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวดเช่นกัน
ตรงจุดนี้แปลงผักสวนครัวของวัดท่าขนุน ซึ่งทางวัดตั้งใจทำเป็นตัวอย่างให้กับชาวบ้านในชุมชน ในการนำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ดำรงชีวิต ได้แสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ บรรดา พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว ใบโหระพา ใบแมงลัก ใบกระเพรา ใบยี่หร่า ฯลฯ แทบจะไม่ต้องพึ่งพาจากตลาดสดเลย
กล้วย ฟักทอง ข้าวโพด กระเจี๊ยบ ก็ยังพึ่งพาอาศัยได้ โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ออกลูกเป็นคันรถ เมื่อรวมกับมะม่วงอื่น ๆ แล้ว บุคลากรในวัดไม่สามารถที่จะกินได้ทัน ต้องนำไปเข้าร่วมโครงการข้าวกล่อง ๑๐ บาท ด้วยการแจกฟรีให้กับผู้ที่มาซื้อข้าวกล่องในโครงการ เป็นของหวานหรือของแถมชั้นดีที่หาได้ยาก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2020 เมื่อ 06:51
|