ดูแบบคำตอบเดียว
  #51  
เก่า 06-09-2016, 17:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยที่อาตมาอยู่วัดท่าซุง ต้องบอกว่าโชคดีที่อยู่ในยุคทองของมโนมยิทธิ ก็คือนอกจากหลวงพ่อท่านจะอยู่เป็นหลักแล้ว บรรดาพี่ ๆ หลายท่านก็ยังมาร่วมวิเคราะห์วิจัยกันอยู่ทุกเย็น พอทำวัตรค่ำเจริญกรรมฐานเสร็จเรียบร้อย ประมาณทุ่มกว่าถึงสองทุ่มก็มารวมตัวกันที่ใต้หอระฆัง หน้าร้านป้ากิมกี่ ฉันปานะกันบ้าง แล้วก็มาวิเคราะห์กันว่า อารมณ์ใจตอนนี้เป็นอย่างไร ? สิ่งที่เรารู้เห็นมาเป็นอย่างไร ?

ท่านไหนที่มีประสบการณ์มากกว่า หรือมีความชัดเจนกว่าก็เอาความรู้มาแบ่งปันกัน ทำให้เราวิเคราะห์ได้ถูกต้องว่าสิ่งที่เรารู้มานั้นจริงหรือไม่จริง ? ทำให้เราป้องกันความผิดพลาดได้มาก ขณะเดียวกันกำลังใจก็ไปในทางเดียวกัน กลายเป็นช่วยกันผลัก ช่วยกันดันไปในทางที่ดี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า พอไม่มีหลวงตาวัชรชัย ไม่มีอาตมา ไม่มีท่านสมปอง ก็จบเลย ไม่มีใครนำแล้ว

เมื่อก่อนเราทดสอบกันทุกวัน ไม่มีหรอกเรื่องที่จะทิ้ง ถึงเวลากรรมฐานเสร็จ โน่น...โดดขึ้นรถอีแต๋น ท่านดุ่ยก็ถาม “หลวงพี่..มีรถไหม ?” “ไม่มี” โอ้โฮ...ท่านแทบจะยกล้อขึ้นถนนเลย ถามว่า “มึงเชื่อกูขนาดนี้เลยหรือ ?” ถ้าพลาดวันไหนก็ตายห่...กันยกคัน..!

วันนั้นก็ออกมา “มีรถไหม ?” “มี..!” เบรกตัวโก่งเลย มองซ้ายมองขวาไม่มีไฟสักดวง มาได้อย่างไรวะ ? ไหนบอกว่ามีรถ ยังไม่ทันไรได้ยินเสียงแก๊ก ๆ ๆ ส่องไฟฉายดูเห็นปั่นจักรยานมา เออ...แม่นจริงเหมือนกันนะ เราทดสอบกันอย่างนี้ แล้วถึงเวลาก็มานั่งวิเคราะห์วิจัยกันว่าอะไรผิด อะไรพลาด คุณวางกำลังใจอย่างไร ? ตอนแรกนั้นใช่ พอคุณไป เอ๊ะ...อาจจะเป็นอย่างนั้น ก็พังทันทีเลย...ใช่ไหม ? ทำให้พวกเรารู้วิธีในการปรับกำลังใจตนเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2016 เมื่อ 18:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา