ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 23-11-2011, 11:14
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๔. “อย่ากังวลใจไปล่วงหน้า เพราะจักทำให้อุปาทานเกิด ให้เตรียมจิตพร้อมรับในปัจจุบันดีกว่า และเหตุการณ์ในอดีตเกี่ยวกับการเข้าใกล้มรณภัย ก็ให้นำมาพิจารณาเตือนจิตของตนเองได้ แต่อย่าไปหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้มากจนเกินไป แล้วเตรียมซ้อมจิต ตั้งสติคอยรับเหตุการณ์ในปัจจุบันให้พร้อมในธรรมปัจจุบัน จิตจักได้ไม่กังวลมาก ทำใจให้พร้อมในทุกขณะจิต แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างรู้เท่าทัน สติเท่านั้นจักทำให้ทันต่อเหตุการณ์ อย่าตกใจให้มากจนเกินไป

๕. “ให้คำนึงถึงความจริงของชีวิต ทุก ๆ ขณะจิต.. มีความตายแฝงอยู่ในความทรงอยู่ของร่างกายนี้ ให้เห็นธาตุ ๔ กายคตาฯ – อสุภกรรมฐาน ตามความเป็นจริง จิตจักได้คลายจากความเกาะติดร่างกายนี้ลงไปได้ ยิ่งเห็นความไม่เที่ยง เห็นความทุกข์ของการมีร่างกายนี้มากเท่าไหร่ จิตจักคลายจากอารมณ์เกาะติดได้มากขึ้นเท่านั้น ความอาลัยในชีวิต อันเป็นความอยากที่จักให้ร่างกายทรงอยู่ ก็คลายลงไปได้มาก การอยากให้อายุยืนยาวก็ดี การอยากให้ร่างกายไม่ป่วย ไม่เจ็บ ไม่ไข้ก็ดี เป็นการฝืนธรรม ซึ่งส่วนใหญ่กระแสจิตมักจักเป็นเยี่ยงนี้เสมอ จึงเป็นจิตที่มากไปด้วยกิเลส หากหวังการก้าวหน้าของจิต ให้วัดอารมณ์ของตนเองเข้าไว้เสมอ แล้วให้ย้อนดูอารมณ์เกาะกิเลสในอดีต พิจารณาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน จะได้มากน้อยสักแค่ไหน หรือยังละไม่ได้เลย นี่จุดนี้จักต้องรู้เอาไว้ด้วย มิใช่ทำกันไปเรื่อย แต่อารมณ์ไปถึงไหนไม่รู้ ใช้ไม่ได้เหมือนกัน การรู้อารมณ์ก้าวหน้าหรือเสื่อมลง จุดนั้นจักทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติ บางคนท้อแท้เพราะมัวแต่ย่ำเท้าอยู่ในปัจจุบัน มองไม่เห็นความก้าวหน้าหรือถอยหลังของจิต แต่ถ้าพิจารณาย้อนไปย้อนมา ก้าวหน้าก็จักได้มีกำลังใจ ถ้าถอยหลังก็ได้รู้จุดบกพร่องอยู่ตรงไหน ก็จักได้แก้ไขอารมณ์ของจิตได้ และก้าวหน้าอย่างไร ก็เอาจุดนั้นแหละมาเป็นหนทางปฏิบัติให้ก้าวหน้าต่อ ๆ ไป

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2011 เมื่อ 17:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา