ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 14-11-2018, 19:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,042 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้ารู้สึกว่ากำลังใจหลุดไปที่อื่น เมื่อรู้ตัวก็ให้รีบดึงกลับมาที่คำภาวนาและลมหายใจเข้าออก ตลอดจนภาพพระของเรา ในการกำหนดภาพพระนั้น ก็อย่าเอาความชัดเจนเป็นหลัก อย่าเอารายละเอียด เพราะว่าใหม่ ๆ แค่สามารถกำหนดได้ว่ามีภาพพระอยู่กับเราก็ใช้ได้แล้ว จะเห็นหรือไม่เห็นไม่ใช่สาระ

สาระสำคัญก็คือกำหนดนึกถึงภาพพระได้ พอกำลังใจทรงตัวแล้ว ความชัดเจนจะค่อย ๆ มีขึ้น เป็นไปตามลำดับสมาธิที่ลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงระดับนั้นรายละเอียดต่าง ๆ ก็จะมาเอง

ให้ทุกคนพยายามรักษากำลังใจเอาไว้เช่นนี้ เมื่อสมาธิคลายตัวออกมาก็หาวิปัสสนาญาณอย่างใดอย่างหนึ่งให้คิด ให้พิจารณา อย่างเช่นเห็นว่าร่างกายนี้ไม่เที่ยง เห็นว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์ เห็นว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา อย่างใดอย่างหนึ่ง แรก ๆ ให้คิดพิจารณาให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะละเอียดได้ ซักซ้อมทำไปบ่อย ๆ สภาพจิตมีความดื้อน้อยลง เมื่อถึงเวลาบอกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา ไม่มีการเถียงอีก ไม่มีการต่อต้านอีก จึงนับว่าใช้ได้

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาและกำหนดการพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2018 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา