หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ตอนแรก ๆ ที่อาตมาไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษี ชาวบ้านเอาอีเห็นมาให้ตัวหนึ่ง ตัวประมาณเท่ากล้วยหอม อาตมาจึงเอามาเลี้ยงจนตัวเท่าหมา แล้วอีเห็นนี้ก็ลืมตัว นึกว่าตัวเองเป็นหมา เวลาที่อาตมาไปไหน หมาก็จะตามไปด้วย เจ้าอีเห็นนี้ก็จะไต่บนไม้ถือบ้าง ไต่ตามตัวอาตมาบ้าง วิ่งไปวิ่งมา แล้วก็กระโดดลงไปเล่นกับหมา
ถ้าอาตมาอยู่จะห้ามหมาได้ เพราะหมาเห็นอาตมาเป็นจ่าฝูง แค่ส่งเสียงดังใส่ หมาก็จะหยุด เขาจะรู้ว่าไม่สมควร แต่ตอนที่อาตมาไปรับสังฆทานที่กรุงเทพฯ เจ้าอีเห็นตัวนี้ก็ยังไปเล่นกับหมา ก็เลยม่องเท่ง ตายไป.. เพราะหมาเวลามันเขี้ยว ก็ฟัดเอาจริง ๆ
เมื่อกลับไป พวกบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยต้นน้ำก็หน้าเหี่ยวเดินมา "อาจารย์ครับ อีเห็นตายแล้วครับ"
อาตมาบอกว่า "ตายแล้วหรือ แล้วเอ็งเอาไปผัดเผ็ดเปล่า ."
เขาก็รีบกุลีกุจอปฏิเสธ "เปล่าครับเปล่า ผมไม่ได้เอาผัดเผ็ด ผมเอาไปฝัง"
"ไอ้ฉิบหาย..เสียของเปล่า ๆ เขาอุตส่าห์ไปล่าเป็นวันเป็นคืนกว่าจะได้ ไอ้นี่ตายอยู่ตรงหน้าดันไม่กิน"
พวกนั้นก็เลยงงมาจนทุกวันนี้ ว่าอาจารย์รักจริงหรือเปล่า เห็นเลี้ยงอีเห็นเสียอย่างดิบดี โอ๋อย่างกับอะไร พอตายกลับจะกินเสียนี่
เราต้องแยกให้ออก ตอนเป็น..เราสงเคราะห์เขา ตอนตาย..เป็นเรื่องของเขา กรรมใครกรรมมัน ในเมื่อเอ็งตาย ข้าก็จะใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 27-09-2011 เมื่อ 14:29
|