ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 21-05-2017, 08:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,501
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,781 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ สำหรับวันนี้เรื่องที่อยากจะพูดก็คือ ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ทำอย่างไรเราถึงจะมอบกายถวายชีวิตให้กับการปฏิบัติธรรมจริง ๆ จัง ๆ ได้ ?

หลายท่านพอเริ่มจะปฏิบัติธรรม เริ่มรักษาศีล เริ่มเจริญภาวนา ก็มักจะโดนคนรอบข้างว่าในลักษณะติเตียนบ้าง กระทบกระเทียบเปรียบเปรยบ้าง ด่าตรง ๆ บ้าง เราก็ไปให้ความสำคัญกับคำพูดเหล่านั้น แล้วก็ละทิ้งการปฏิบัติของเราไป ทั้ง ๆ ที่เวลาตาย คนที่ตกนรกคือเรา คนที่เกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานก็คือเรา แต่เรากลับไปให้ความสำคัญกับคำพูดของคนอื่น จนกระทั่งละทิ้งการปฏิบัติใน ทาน ศีล ภาวนา ของเราไป

ในส่วนของพรหมวิหาร ๔ นั้น มี เมตตา กรุณา เมตตาคือความรัก กรุณาคือความสงสาร ให้เราใช้กับตัวของเราเองก่อน ถ้าเรารัก เราสงสารตัวเอง กลัวตัวเองจะตกนรก เรารักเราสงสารตัวเอง กลัวตัวเองจะเกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เราจึงต้องตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา

เมื่อเป็นเช่นนั้น เราเองเหมือนกับเป็นผู้รู้ว่า มีภัยใหญ่รอเราอยู่ข้างหน้า ในเมื่อโทษภัยใหญ่หลวงรออยู่ข้างหน้า ถ้าเราไม่สามารถที่จะก้าวข้ามไปได้ ก็จะต้องตกสู่อบายภูมิ ทนทุกข์ทรมานอีกนานแสนนาน กว่าจะได้เกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์ กว่าจะได้พบพระพุทธศาสนา กว่าจะได้มีโอกาสฟังธรรมแล้วน้อมนำมาปฏิบัติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 16:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา