ดูแบบคำตอบเดียว
  #122  
เก่า 22-01-2018, 09:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในส่วนนี้ถ้าเรารู้จักพิจารณา จะเห็นความน่ากลัวของการเวียนว่ายตายเกิด ว่าพวกเราเหมือนกับเดินอยู่บนกองทุกข์อยู่ตลอดเวลา ไฟแห่งความทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แผดเผาเราอยู่ตลอดเวลา แต่เรามักจะปัญญาไม่ถึง ในเมื่อปัญญาไม่ถึง มองไม่เห็น ก็ไปคิดว่าการเกิดมานั้นดี

ถ้าเป็นไปได้ให้พยายามตัดละทุกอย่างในโลกนี้ให้เหลือน้อยที่สุด ถึงวาระเราจะได้เบากายเบาใจที่สุด ถ้าไม่สามารถไปถึงที่สุดได้ แค่ไม่ต้องลงมาเกิดได้ก็วิเศษเหลือล้นแล้ว แต่ถ้าไปถึงที่สุดไม่ได้ ต้องลงมาเกิดใหม่อีก ก็อย่าให้ถึง ๗ ครั้ง ครั้งเดียวก็ไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะถ้าสร้างเวรสร้างกรรมมามาก ๆ อย่างอาตมา ครั้งเดียวเขาก็ทวงอ่วมอรทัยแล้ว

ส่วนใหญ่พวกเราก็สร้างบุญ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา แต่เป้าหมายต่างกันไป เหมือนอย่างกับในพระไตรปิฎก นางวิสาขามหาอุบาสิกาเห็นบรรดาผู้หญิงอายุมากก็มี วัยกลางคนก็มี เป็นสาวใหญ่ก็มี เป็นสาวน้อยก็มี มาถือศีลอุโบสถกันเยอะแยะ ก็เลยเข้าไปถามว่าท่านทั้งหลายทั้งปวงถือศีล หวังประโยชน์อะไร ? ปรากฏว่าได้ยินแล้วผิดหวังสุด ๆ

สตรีอายุมากบอกว่ามารักษาศีลปฏิบัติธรรม เพื่อหวังจะให้ลูก ๆ มีความเจริญรุ่งเรือง ท่านที่เป็นสาวใหญ่หน่อย ก็ขอให้คู่ครองของตัวเองแข็งแรง ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง สามารถสร้างครอบครัวได้มั่นคง มีบุตรมาก ๆ บรรดาพวกสาว ๆ ก็ขอให้ตัวเองทำมาหากินรุ่งเรือง ให้ครอบครัวมีความสุข ให้มีลูกชาย ให้ลูกของเราได้แต่งงานกับบุคคลที่มีฐานะเท่าเทียมกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2018 เมื่อ 09:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา