เราทั้งหลายจึงควรจะประพฤติปฏิบัติตามปฏิปทาของพระนันทะเถระ ก็คือต้องรู้จักระมัดระวังสำรวมอินทรีย์ ไม่ปล่อยกำลังสมาธิที่เราทำได้รั่วออกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เสียหมด จะได้มีกำลังเข้มแข็งเพียงพอที่จะต่อต้านกระแสกิเลสได้ แล้วถ้ากำลังสูงเพียงพอ สามารถตัดละกิเลสได้ก็ยิ่งดี
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักปฏิบัติพึงสังวรให้มากไว้ ถ้าท่านใดสงสัยว่าปฏิบัติธรรมมาวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า ทำไมถึงยังไม่ได้มรรคไม่ได้ผลเลย ก็ขอให้รู้ว่าเราขาดการสำรวมอินทรีย์เป็นอย่างยิ่ง ปฏิบัติเสร็จก็ไปนั่งคุยกันจนกำลังรั่วหายหมด ปฏิบัติเสร็จก็ไปนั่งส่องเฟซฯ ส่องไลน์กันจนกำลังรั่วหายหมด นี่ยกตัวอย่างแค่ตากับหูเท่านั้น
ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๙
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:33
|