"ทำอะไรทำให้จริง ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ สมัยนั้นอยู่วัดท่าซุง กลางคืนอาตมาจะนอนเมื่อไรอยู่ที่ว่าหมดแรงเมื่อไร ก็คือปฏิบัติไปเรื่อย เดินจงกรม ภาวนา สลับกันไปสลับกันมา ส่วนใหญ่ก็ไปอยู่ในป่าช้า อยากทดสอบตัวเองว่ากลัวไหม ?
ตามดูอยู่เป็นปี ๆ กว่าจะรู้ว่าความกลัวทั้งหมดมาจากความกลัวตาย อย่างกลัวผี ผีจะมาทำอะไร ? มาหลอก เดี๋ยวมาบีบคอเรา..ตาย กลัวเสือ เสือจะมาทำอะไร ? กัดเรา..เดี๋ยวเราตาย กลัวงู งูมาทำอะไร ? มากัด..เดี๋ยวเราตาย ทุกอย่างมาลงตรงตัวตายหมด กลัวแมลงสาบอย่างนี้ ลองดูสิว่าอ้อมไปไกลมากเลยนะ เห็นแมลงสาบแล้วขยะแขยงทนไม่ได้ ถ้าหากว่าอาการหนักมาก ๆ ก็ถึงตาย..! ท้ายสุดลงตรงตายหมด แค่ตายเรื่องเดียวอาตมาตามดูอยู่เป็นปี ๆ
สวนไผ่ ๖ ไร่นั่นเป็นที่อยู่เลย อย่างน้อย ๆ วันหนึ่งก็ ๖ ชั่วโมงอยู่ในนั้น เพราะว่าเข้าเวรหน้าตึกหลวงพ่อ ๖ ชั่วโมง พอถึงเวลาหลวงพี่ไพบูลย์มาเปลี่ยน หรือว่าหลวงน้ามีชัยมาเปลี่ยน อาตมาก็หายแวบเข้าไปข้างใต้นั่นแหละ ไม่ต้องมาหากูหรอกจนกว่าจะทำวัตรเย็น ทำวัตรเสร็จสรรพเรียบร้อยหายไปอีกแล้ว พูดง่าย ๆ ว่าเหี้ยกี่ตัว งูเหลือมกี่ตัว ที่อยู่ข้างใต้นี่รู้จักกันหมด อยู่เสียจนกระทั่งกลายเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว
จำเป็นต้องรักษาอารมณ์ให้ต่อเนื่อง แล้วประสบการณ์ที่ชอกช้ำมากที่สุดก็คือ พออารมณ์ใจดีแล้วก็พลิกเลย จากเทวดาเป็นหมาไปเลย โดนเข้าหลาย ๆ ครั้งแล้วจะเข็ด พวกเราทุกวันนี้ที่ยังเอาดีไม่ได้เพราะว่ายังไม่เข็ด ถ้าเข็ดแล้วจะเริ่มเอาดีเอง กูจะไม่ปล่อยให้หลุดไปอีกเด็ดขาด...! ขนาดตั้งปณิธานไว้แบบนั้นนะ บางทีประคองเอาไว้ทั้งหลับ ทั้งตื่น ทั้งยืน ทั้งนั่ง เดือนหนึ่ง สองเดือน สามเดือน ทรงอารมณ์ไม่มีหลุดเลย เผลอหน่อยเดียวหลุดอีกแล้ว หลุดตรงไหนไม่รู้ตัวด้วย โอ้โฮ...กว่าจะตามเจอแต่ละอย่างแทบตายเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2018 เมื่อ 10:28
|