พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนอุทัยธานีเป็นเมืองหน้าด่านเก่า แต่ไม่ค่อยมีความสำคัญ เพราะเขาไปเน้นตรงเมืองสรรค์และเมืองสิงห์ ถึงเวลาจากอุทัยธานีลงมาต้องผ่านชัยนาท ก็จะติดด่านเมืองสรรค์ก่อนแล้วก็ติดด่านเมืองสิงห์บุรี ลงมาเป็นระยะ ๆ แถวนั้นพวกเราไปละเลงซะเละมาไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน เวลาผ่านแถวนั้นต้องระวังให้ดี เขาจะเอาคืนเมื่อไรก็ไม่รู้..!?
ส่วนใหญ่อาตมาจะไม่เดินทางกลางคืนเลย ต้องระวังตัวลีบ ดูอย่างท่านจิตโต พลาดทีเดียวเจอไป ๔ ศพ..! พวกนี้เขาจ้องอยู่ เผลอเมื่อไรเขาได้ช่องก็เอาเลย ช่วงนั้นโดนกันทุกคน หลวงพ่อมนัส ประกันต้องออกรถใหม่ให้ แต่ตัวไม่เป็นอะไร พระครูหน่อยหน้ารถก็เป็นรูปต้นไม้เลย รถอาตมาหน้ารถก็เป็นรูปเสา แหม..เจ็บใจ อุตส่าห์ประกันทั้งอุบัติเหตุ ประกันทั้งสุขภาพ แต่ไม่ได้ใช้เลย
หลวงพี่เอก วัดเขาแร่ ขนาดรถใหม่ ๆ ก็ต้องมาเจ๊ง หลายคนโดนติด ๆ กันเลย แสดงว่าตอนที่ไปเล่นเขาไปพร้อม ๆ กัน ถึงเวลาเขาเอาคืนก็โดนพร้อม ๆ กัน ไปโทษเขาก็ไม่ได้ เขามีสิทธิ์ที่จะทวง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:00
|