ดังนั้น...ทุกอย่างที่เราทำ ต้องคิดก่อนเสมอ อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อาตมาก็อยากเดินกลางถนนเหมือนกัน เดินสบายจะตาย แล้วทำไมต้องไปเดินข้างถนนที่มีแต่ก้อนกรวดให้เจ็บตีนด้วย เราก็ต้องดูว่าการเดินกลางถนนของเรา ไปสร้างทุกข์สร้างโทษให้กับคนอื่นเท่าไร ถ้ารู้จักเหลียวมองข้างหลังจะเห็นว่า แค่พระ ๒๐ กว่ารูปเดินบิณฑบาตนี่รถก็ติดเป็นทางแล้ว เพราะว่าหลายคนก็เคารพพระมากจนเกินไป ถึงเวลาแถวพระยังไม่หมด ก็ไม่กล้าที่จะตัดแถวพระไป ในเมื่อตัวเองจอด คันหลังก็ไปไม่ได้
ส่วนอีกหลายคนก็ถือโชคถือลางว่า ถ้าไปตัดแถวพระบิณฑบาต จะสร้างอุปสรรคเกิดขึ้นในชีวิตตัวเอง ยิ่งไม่กล้าทำไปใหญ่ แล้วมีบางช่วงก็ซ้ายใส่บ้านหนึ่งขวาใส่บ้านหนึ่งแล้วซ้ายใส่อีกบ้านหนึ่ง แค่นั้นรถก็ติดหมดทั้งตลาดแล้ว เราก็ยังไปซ้ำเติมด้วยการลงไปเดินกลางถนนอีก ถ้ารู้จักใช้หัวแม่ตีนข้างขวาคิดสักหน่อย ก็จะรู้ว่ากำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นเขา
ต่อไปให้รู้จักพิจารณาใจของตัวเองให้ละเอียดมากกว่านั้นนิดหนึ่ง อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง ต้องคิดอยู่เสมอว่า กาย วาจา ใจ ของเราที่ทำไปนั้น จะก่อทุกข์ก่อโทษให้กับคนอื่นหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นแล้วจะกลายเป็นว่าเราปล่อยวางแล้ว แต่วางใส่กบาลคนอื่นเป็นประจำเลย อาตมาเองไม่ได้มีความสุขที่จะต้องมาด่าว่าตักเตือนพวกเรา ถ้าไม่อยู่ในหน้าที่ของครูบาอาจารย์แล้ว อาตมามักจะปล่อยเลยตามเลย อยากจะทำอะไรก็ช่างแม่ง... สร้างกรรมของมึงเองไม่ได้เกี่ยวกับกูสักหน่อย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2014 เมื่อ 12:22
|