ดูแบบคำตอบเดียว
  #29  
เก่า 10-03-2012, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,045 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วกฎแห่งกรรมกับกฎสังสารวัฏ ใครเป็นผู้คุมกฎ ?
ตอบ : เราทำเอง เพราะฉะนั้น..จะเรียกว่าเราเป็นผู้คุมกฎก็ได้ เพราะถ้าเราไม่ทำก็ไม่ต้องรับกรรมนั้น ๆ ถ้าทำเมื่อไรก็ต้องรับ ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว

ถาม : แต่ละคนเป็นคนรับ ไม่มีใครมาคุม ?
ตอบ : การกระทำของเรา ที่บาลีเขาเรียกว่ากรรมหรือกัมมะนั่นแหละคือตัวควบคุม เขาถึงได้เรียกว่ากฎแห่งกรรม ก็คือ ทำดีคุณได้ดี ทำชั่วคุณได้ชั่ว เพียงแต่ว่าเร็วช้าอยู่ที่ลักษณะการกระทำของเรา

ถาม : เสมอทุกคนหรือครับ ?
ตอบ : ทุกคนไม่มีเว้น จนกว่าจะเข้าถึงความบริสุทธิ์ที่หลุดพ้นกรรมไปแล้ว สิ่งที่ท่านกระทำเป็นเพียงจริยาเท่านั้น ไม่เป็นกรรมเพราะว่าจิตไม่ได้ปรุงแต่งไปด้วยรัก โลภ โกรธ หลง

เรื่องพวกนี้เกินความรู้คุณไปมาก พูดไปก็ไร้ประโยชน์ แล้วที่ถามมาอาตมาไม่เห็นประโยชน์เลย สักแต่ว่ารู้ให้หายคันแล้วก็เอาไปนั่งเถียงกับคนอื่นเขาต่อ บางทีก็ไปยืนยันกับเขาว่าอาตมาว่าอย่างนั้น ถ้าคนที่เขาจะเถียงเสียอย่างก็เลยพลอยด่าอาตมาไปด้วย

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า "อย่ากล่าววาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกัน เพราะการเถียงกันทำให้ต้องพูดมาก บุคคลที่พูดมากจิตย่อมฟุ้งซ่าน บุคคลที่ฟุ้งซ่านย่อมไม่สามารถเข้าถึงสมาธิ" ผู้ที่ไม่เข้าถึงสมาธิปัญญาไม่เกิด ในเมื่อปัญญาไม่เกิดการหลุดพ้นก็ไม่มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2012 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา