ถาม : เวลาที่เรามีจิตสละออกกับจิตสาธารณประโยชน์ เป็นเรื่องเดียวกันไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่...จิตที่เราสละออกเป็นจาคานุสติ ถ้าหากว่าได้สละไปเลยเป็นทานบารมี แต่จิตสาธารณประโยชน์นั่นเป็นเมตตากรุณาของพรหมวิหาร เพราะว่าตั้งใจช่วยคนอื่น คราวนี้เมตตาพรหมวิหารที่เป็นหลักนั้น ทำให้เราต้องไปสละทรัพย์ สละแรงกาย แรงใจอีก เพราะฉะนั้น...เป็นคนละตัวกัน อย่าไปมั่วกรรมฐานจนผิดกอง
ถาม : อย่างนี้เวลาเราทำทาน เป็นจิตสละออกหรือจิตสาธารณประโยชน์ ?
ตอบ : ทานนี่เป็นสละออก แต่คราวนี้ว่าจะสละออกเพื่ออะไร ถ้าเราไปเห็นเขาทำงานสาธารณประโยชน์อยู่ เกิดเมตตากรุณาอยากสงเคราะห์เขา เราก็จะกลายเป็นพรหมวิหารนำจาคานุสติ แต่ถ้าหากว่าอยากจะสละออก พอดีว่าเขาสละออกเพื่อส่วนรวม ก็จะกลายเป็นเรื่องของจาคานุสตินำ เป็นจิตสละออก
ถาม : อานิสงส์ละครับ ?
ตอบ : อานิสงส์ขึ้นอยู่กับสภาพจิตตอนนั้นของเรา ถ้าหากว่าเป็นพรหมวิหารนี่อานิสงส์สูงกว่ามาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2018 เมื่อ 05:04
|