ถาม : ....การเห็นพระนิพพาน
ตอบ : ถ้าคิดจะเห็น แปลว่าผิดตั้งแต่แรกแล้ว หลับตาอยู่จะไปเห็นอะไร มโนมยิทธิตอนแรกจะเป็นความรู้สึกก่อน ขอให้เชื่อว่าความรู้สึกนั้นถูกต้อง คล้อยตามครูฝึกไปเรื่อย
พอสมาธิทรงตัวขึ้น จิตเริ่มนิ่ง ภาพถึงจะปรากฏขึ้น แต่ภาพที่ปรากฏก็ไม่ได้ปรากฏอย่างตาเห็น แต่เป็นใจเห็น เหมือนกับเรานึกถึงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เรารู้จัก ก็จะเห็นชัด ๆ แต่ไม่ใช่ตาเห็น เพราะฉะนั้น..ถ้าตั้งใจที่จะเห็น ก็แปลว่าผิดตั้งแต่แรกแล้ว
หลวงปู่มหาอำพันไปกราบหลวงพ่อวัดท่าซุงครั้งแรก หลวงพ่อเล่าว่าหลวงปู่เจ้าคุณนรฯ ลอยคุมหลวงปู่มหาอำพันมาเลย หลวงปู่เจ้าคุณนรฯ บอกว่า "ฝากน้องชายผมคนหนึ่ง ผมจนปัญญาแล้ว น้องผมจะเอาแต่ตาเห็นเป็นทิพเนตรให้ได้ เขาไม่เข้าใจคำว่าทิพจักขุญาณคือใจเห็น"
หลวงพ่อวัดท่าซุงสะกิดบอกหน่อยเดียว หลวงปู่มหาอำพันก็เข้าใจ หลังจากนั้นหลวงปู่มหาอำพันยืนยันเรื่องทิพจักขุญาณกับใคร ท่านจะย้ำเลยว่า "ใจเห็นนะ ไม่ใช่ตาเห็น" เพราะว่าท่านติดตรงตาเห็นมา ๒๐-๓๐ ปี
ถาม : จะเห็นได้ชัดต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : หลายวิธีด้วยกัน อันดับแรก ตัดร่างกายให้ได้จริง ๆ ถ้าจิตไม่ยึดร่างกายก็จะเห็นได้ชัดเจน อันดับสอง พยายามสร้างสมาธิให้สูงกว่านั้น ยิ่งได้ฌานสี่ยิ่งดี ถ้าหากสมาธิทรงตัวได้มากเท่าไร ความชัดเจนจะมีมากเท่านั้น
ความจริงต้องบอกว่า พวกเรามักจะคัน คันตรงที่ว่าอยู่ดีไม่ว่าดี ดันไปหาเรื่องให้เขาตีหัวร้างข้างแตก ไม่เห็นนั้นปลอดภัยที่สุดแล้ว เหมือนกับอยู่ ๆ ไปรู้ว่าท่านรัฐมนตรีคนนี้ไปทำอะไรไม่ดีมาบ้าง แล้วท่านก็รู้ด้วยว่าเรารู้เห็น ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าท่านจะเล่นงานเราไหม ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2019 เมื่อ 04:04
|