ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 12-05-2009, 22:07
ณญาดา's Avatar
ณญาดา ณญาดา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 27
ได้ให้อนุโมทนา: 12,017
ได้รับอนุโมทนา 34,841 ครั้ง ใน 741 โพสต์
ณญาดา is on a distinguished road
Default

ในระหว่างสงครามทรงนำทหารส่วนหนึ่งออกจากค่าย ไปปฏิบัติการสงครามกองโจร "จรยุทธ์" ตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงของข้าศึก ซึ่งพระองค์ก็ได้มอบหมายให้ “พระองค์เจ้าขุนเณร” เป็น ผู้คุมกองโจรไปปฏิบัติการ มีหน้าที่ปล้นสดมภ์ขบวนลำเลียงของพม่าที่พุไคร้ ช่องแคบแควน้อย ซึ่งก็สามารถยับยั้งและปล้นสดมภ์ขบวนลำเลียงของพม่าได้สำเร็จ ทำให้ค่ายทัพหน้าพม่าขาดเสบียงอาหารและกระสุนดินดำที่จะยิงต่อสู้กับฝ่ายไทย

เมื่อกองทัพหน้าถูกตรึงอยู่ที่หน้าช่องเขาบรรทัด ทัพที่ ๖ ทัพที่ ๗ ของพม่าที่ยกตามมาก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จึงต้องตั้งทัพอยู่รออยู่ในหุบเขา แม้ทัพหลวงของพระเจ้าปดุงเองซึ่งเป็นทัพที่ ๘ จะยกเลยด่านเจดีย์สามองค์เข้ามาแล้ว ก็ต้องหยุดทัพไม่สามารถเดินหน้าต่อเข้ามาได้ อีกทั้งยังขาดแคลนเสบียงอาหารอย่างหนัก แต่ก็ต้องแบ่งเสบียงใช้ช้างบรรทุกข้ามเขาไปให้กองทัพหน้า ก็ยังถูกฝ่ายไทยซุ่มโจมตีตัดการลำเลียงเสบียงอีก จนทหารพม่าโดยเริ่มอดอยาก เจ็บป่วย เป็นไข้ป่าและเริ่มล้มตายไปทีละคน

ขณะที่กองทัพของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท สู้รบติดพันอยู่กับพม่าที่ทุ่งลาดหญ้านั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปริวิตกว่าจะยันทัพพม่าไม่อยู่ จึงได้เสด็จยกทัพหลวงมาถึงทุ่งลาดหญ้า แต่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทได้กราบทูลว่า พม่าอดอยากมากพออยู่แล้ว อย่าทรงวิตกเลย อีกไม่นานก็จะแตกแล้ว ขอให้เร่งเสด็จกลับไปตั้งมั่นที่พระนคร ด้วยเกรงว่าทัพพม่าที่ยกเข้ามาทางอื่นจะฝ่าด่านเข้ามาได้ จะได้ยกไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที

เมื่อการส่งเสบียงถูกตัดขาดโดยกลศึกสงครามกองโจร จนเกิดความอดอยากและเสียขวัญไปทั่วค่ายพม่า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงใช้กลยุทธ์หลอกฝ่ายพม่า โดยให้ทหารลอบออกนอกค่ายในเวลาค่ำคืน แล้วให้ตั้งทัพถือธงทิวเดินเป็นกระบวนกลับมาในตอนเช้า ส่งเสียงสดชื่นอึกทึก ฝ่ายพม่าอยู่บนที่สูงกว่าเห็นกองทัพไทยมีกำลังหนุนเพิ่มเติมมาเสมอ ก็ให้ครั่นคร้ามจนเสียขวัญหนัก เมื่อเหมาะสมแก่เวลา กรมพระราชวังบวรสุรสิงหนาท ก็ทรงประกาศปลุกขวัญแก่ไพร่ทหารว่า “ พวกเจ้าเป็นไพร่หลวง ข้าเป็นพระราชวงศ์ แต่เจ้ากับข้าเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเราเป็นคนไทย เป็นเจ้าของแผ่นดินเหมือนกัน รบวันนี้เราจะแสดงให้ผู้รุกรานเห็นว่าเราหวงแหนแผ่นดินแค่ไหน รบวันนี้เราจะไม่กลับมาค่ายนี้อีกจนกว่าจะขับไล่ศัตรูไปพ้นชายแดน ข้าจะไม่ขอให้พวกเจ้ารบเพื่อใคร นอกจากรบเพื่อแผ่นดินของเจ้าเอง แผ่นดินที่เจ้ามอบให้ลูกหลานของเจ้าได้อยู่อาศัยอย่างเป็นสุขสืบไป”

วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๒๘ กองทัพสยามก็เข้าระดมตีค่ายพม่าพร้อมกันทุกค่าย พร้อมทั้งใช้ปืนใหญ่ระดมยิงสนับสนุนอย่างหนักตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ทัพหน้าที่ ๔ และทัพที่ ๕ แตกกระเจิงจนหมดทุกค่าย ไพร่พลสยามไล่ฆ่าฟันพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือต่างก็วิ่งหนีกระจัดกระจาย แต่ก็ถูกกองโจรของพระองค์เจ้าขุนเณรเข้าตีซ้ำเติม จับเชลยริบศัสตราวุธกลับมาเป็นจำนวนมาก ในพงศาวดารพม่ากล่าวว่า "ไทยตีค่ายพม่า แตกที่แนวรบทุ่งลาดหญ้านั้นทหารพม่ากำลังอดอยากอิดโรย ถูกไทยฆ่าตายและจับเป็นเชลยทั้งนายและไพร่พล ประมาณ ๖,๐๐๐ คน"

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กเมื่อวานซืน : 13-05-2009 เมื่อ 10:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ณญาดา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา