ชื่อกระทู้: งานพระศาสนา
ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 17-12-2009, 08:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,656 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้มาถึงรุ่นพวกคุณ ถ้ามีโอกาสเรื่องเรียน เรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ กาลต่อไปข้างหน้า ในเรื่องของการคณะสงฆ์นี่ ทันทีที่สิ้นในหลวงของเรา จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลชนิดพลิกฟ้าคว่ำดินเลย เพราะว่ามีคนจ้องจะล้มพระพุทธศาสนามานานแล้ว แรก ๆ ก็จะตัดในลักษณะที่ว่า เรื่องของสมณศักดิ์ ยศ ตำแหน่ง อะไรพวกนี้ อาจจะค่อย ๆ โดนตัดไปหรือตัดไปทีเดียว แล้วแต่ว่าเขาจะเมตตาอย่างไร ? เมื่อถึงวาระนั้นแล้ว สิ่งที่จะช่วยเราได้ดีที่สุดคือการศึกษา เพราะถ้าหากว่าเรามีการศึกษาอยู่ ถึงเวลาเราสามารถรับยศรับตำแหน่งได้ แม้ว่าจะไม่มีในลักษณะที่เรียกว่าเป็นสมณศักดิ์อย่างเดิม แต่ว่าการปกครองคณะสงฆ์อย่างน้อย ๆ เป็นเจ้าอาวาสนี่ ถ้าหากว่าเราสามารถเป็นเจ้าอาวาสที่ใดที่หนึ่งได้ เราจะมีอำนาจตามกฎหมาย สามารถบริหารจัดการตรงนั้นได้เต็มที่ ถ้าเราไม่มีความรู้ตรงนี้รองรับ เราไม่สามารถที่จะทำได้ และโดยเฉพาะถ้าไม่มีการเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นเรื่อย ๆ วิสัยทัศน์เราจะแคบ เราไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการวัดไปทางไหน

ผมเองคุยกับพระกับเณรอยู่ทุกเย็น ผมจะบอกอยู่ตลอดว่าผมจะบริหารวัดไปในลักษณะไหน..แนวไหน เพื่อที่ว่าถ้าหากปุบปับถ้าสิ้นเราไปเขาจะได้ทำต่อได้ ถ้าเรามีแนวบริหารที่ชัดเจน มีแผนระยะยาว ระยะกลาง ระยะสั้นที่ชัดเจน ว่าในแต่ละเดือน แต่ละปี อีก ๓ ปี ๕ ปี เราจะทำอะไร ทุกคนจะรู้ แล้วเราจะทำทุกอย่างไปในแนวเดียวกันหมด งานยากก็จะเป็นงานง่าย เราไม่ใช่แค่คิดว่า เออ..เดือนหน้าเราจะจัดงานอะไร ? เสร็จแล้วก็จบแค่นั้น นั่นใช้ไม่ได้...

จัดงานผ่านไปแต่ละงานนี่ คุณเคยประเมินตัวเองกันบ้างไหมว่าสอบได้หรือสอบตก ? ทันทีที่กระทบอารมณ์ในระหว่างงาน เราเกิดความรู้สึกอย่างไรขึ้นมาบ้าง ? ยินดียินร้ายตามมันหรือเปล่า ? ยินดีเฟื่องฟูเวลาที่เขาให้คำชมเชย บอกว่า "เออ...จัดงานได้ดีมากเลย หลวงพี่ขยันขันแข็งกันจัง เห็นทำงานมา ๒ วัน ๒ คืนแล้วยังไม่ได้พักเลย" หรือไม่อยู่ ๆ ไปเจอคนที่ไม่ถูกอารมณ์ด่าเอา "ไอ้ห่..มาวัดทำบุญ มันยังไล่อย่างกับหมูอย่างกับหมาว่าให้รีบ ๆ ทำ..รีบ ๆ ทำอีก..!" ถ้าโดนอย่างนั้นเข้าแล้ว เราไปดีใจเสียใจตามเขาหรือเปล่า ? ถ้าเราไปดีใจเสียใจตามเขา ก็ให้รู้เลยว่ากำลังใจเรายังใช้ไม่ได้ ทำอย่างไรที่เราจะทำกำลังใจให้เป็นกลางได้

ผมเป็นคนช่างสังเกตมาก เพราะว่าหลวงพ่อท่านสอนให้ดูใจตัวเอง ผมทำงานไป ๆ ตกใจ..รุ่นน้องเสียงโคตรดังเลย ผมก็ว่า เอ๊ะ...คนเสียงดังนี่ ๒ สาเหตุ สาเหตุแรกคือเหนื่อย สาเหตุสองคือเครียด เหนื่อยกับเครียดนี่ ถ้ากำลังใจของเราทรงสมาธิอยู่ได้อาการก็จะน้อย ถึงเหนื่อยก็เก็บอยู่ข้างใน จะเครียดก็เก็บอยู่ข้างใน แต่นี่ทำไมเสียงดังอย่างกับตะโกน ผมก็หันมาสังเกตตัวเอง ปรากฏว่าเป็นเหมือนกัน โห..ตอนเช้าทำกรรมฐานอัดมาตั้งแต่ตีสาม..แน่นเปรี๊ยะเลย กะว่า "ใครจะเขย่าอย่างไรกูไม่สะเทือนแน่.." ที่ไหนได้..ยังไม่ทันจะฉันเพลเลยจะปริหักแล้วว่ะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-12-2009 เมื่อ 17:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา