"วันแรกเขาพามาแยกตัวกันที่มณฑลทหารบกที่กรุงเทพฯ นี่แหละ ตรงกองพลที่ ๑ เขาแจ้งว่าวุฒิฯ มัธยม อายุยังไม่เกิน ๒๓ ปี สามารถเรียนต่อนักเรียนนายสิบ ได้จะเรียนไหม ? ก็เกิดแรงบันดาลใจว่า เราอยากเรียนมานานแล้ว สมัยนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าการเรียนทหารไม่เสียเงินเสียทอง เพราะไม่เหมือนกับสมัยหลัง ๆ ที่ทางโรงเรียนจะมีคนเข้าไปแนะแนวการศึกษาให้ สมัยนั้นต้องตรัสรู้เอง ก็เลยไม่รู้ ถ้ารู้นี่โดดเข้าไปเรียนนานแล้ว
พอเข้าไปแล้วถึงจะรู้ว่าไม่ต้องเสียอะไรเลย เสื้อผ้า ที่อยู่ที่กินอะไรเขาให้หมด แล้วมีเบี้ยเลี้ยงให้อีกต่างหาก พอมีให้เรียนก็เลยไปเรียน ผลการเรียนก็ดันออกมาเกินชาวบ้านชาวเมืองเขาอีก เพราะฉะนั้น..ถึงเพื่อนฝูงเขาจะเหม็นขี้หน้าขนาดไหน เขาก็ต้องพึ่งพาอาศัย เพราะเขาต้องให้ช่วยเขาในเรื่องเรียน
จนกระทั่งไปถึงจุดอิ่มตัวตรงที่ว่า ทำงานตรงไปตรงมาแล้วไปขวางทางเพื่อน เขาก็เลยฟ้องร้อง ตอนนั้นอาตมามีหน้าที่คุมพวกของหนีภาษีไปส่งคลัง ปกติแล้วจะหายหกตกหล่นเข้ากระเป๋าคนอื่นเป็นประจำ คราวนี้อาตมาไปลงบัญชีทุกชิ้น มีการเซ็นรับเซ็นส่ง เบี้ยวไม่ได้ กลายเป็นไปเกะกะทางเขา เขาก็เลยฟ้องเอา
ตอนแรกก็ไม่รู้ตัวว่าโดน มารู้เอาตอนที่จ่ากองพันเขามากระซิบถามว่า “เอ็งไปทำอะไรผิดหรือเปล่า ? เจ้านายเขาสั่งตรวจสอบบัญชีทุกธนาคาร แล้วก็ไปรษณีย์ด้วย ว่ามีการฝากเงิน โอนเงิน ส่งเงินกลับบ้านหรือเปล่า ?” อาตมาก็สังหรณ์ใจว่าเรื่องอะไร อยู่ ๆ เจ้านายมาตรวจสอบ ตอนนั้นก็ยังซื่อเกินไป ไม่รู้หรอกว่าโดนเพื่อนเล่นเข้าให้แล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-04-2014 เมื่อ 14:54
|