ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 10-04-2015, 11:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,915 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจะเห็นอย่างชัดเจนว่า ในส่วนของสามัญลักษณะ คือสภาพทั่วไปที่เหมือน ๆ กันของสรรพสิ่งทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์อย่างนี้ทั้งสิ้น ก็คือเมื่อปรากฏขึ้น ก็ก้าวเข้าไปหาความเปลี่ยนแปลงแปรปรวน และสลายตัวไปในที่สุด ระหว่างที่ดำรงคงอยู่ ก็ประกอบไปด้วยความทุกข์ ทุกข์ของการเกิด ทุกข์ของการแก่ ทุกข์ของการเจ็บ ทุกข์ของการตาย ทุกข์ของการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ทุกข์ของการปรารถนาไม่สมหวัง ทุกข์ของการกระทบกระทั่งอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ เป็นต้น

ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถที่จะยึดถือเป็นตัวตนเราเขาได้ เพราะสภาพที่แท้จริงล้วนแล้วแต่ประกอบขึ้นมาจากธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ให้อาศัยอยู่ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว ท้ายสุดก็สลายตัวกลับคืนไปสู่สมบัติของโลกตามเดิม พระองค์ท่านเป็นเช่นนี้ ตัวเราก็เป็นเช่นนี้ ตัวคนอื่นก็เป็นเช่นนี้ สัตว์อื่นตลอดจนวัตถุธาตุสิ่งของทั้งหลายต่างก็เป็นเช่นนี้ ในเมื่อเกิดมามีสภาพร่างกายที่ไม่เที่ยงอย่างนี้ เป็นทุกข์อย่างนี้ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนได้อย่างนี้ เรายังมีความยินดีที่จะมาเกิดอย่างนี้อีกหรือไม่ ? เพราะเกิดเมื่อไรก็ทุกข์เมื่อนั้น

ถ้าหากเราไม่ยินดีในการเกิด ทำอย่างไรถึงจะพ้นไปได้ ? ก็ให้ทุกท่านตั้งหน้าตั้งตาชำระศีลทุกสิกขาบทของตนให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ท้ายที่สุดตั้งเป้าเอาไว้ว่า ตายลงไปเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

ทุกครั้งที่ภาวนา กำลังใจตอนสุดท้ายต้องแน่วแน่มั่นคงต่อเป้าหมายทั้งหลายเหล่านี้ ก็คือทวนศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ทำความเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่นแฟ้นจริงจัง และตั้งเป้าไว้ว่า ถ้าตายแล้วเราไปพระนิพพานที่เดียว เมื่อถึงตรงนี้ ท่านใดที่สามารถยกจิตขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพานได้ ให้ยกจิตขึ้นไปกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ตั้งกำลังใจเอาไว้ตรงนั้นให้ยาวนานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าไม่สามารถที่จะยกจิตขึ้นพระนิพพานได้ ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบชอบมากที่สุด ว่านั่นเป็นองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ถ้าตายลงไปเมื่อไร เราขอไปอยู่กับพระองค์ท่านที่พระนิพพานเท่านั้น

แล้วพิจารณาดูว่า ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ก็จับลมหายใจเข้าออกของเรา ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ก็กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลงหรือว่าหายไป คำภาวนาหายไป ก็กำหนดใจรับรู้ไว้เฉย ๆ ว่าตอนนี้ลมหายใจเบาลง ตอนนี้ลมหายใจหายไป ตอนนี้คำภาวนาหายไป ให้รักษาสภาพจิตของเราเช่นนี้เอาไว้ จนกว่าได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2015 เมื่อ 15:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา