ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 08-04-2015, 17:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,915 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๘

ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าความรู้สึกของเราหลุดไปที่อื่น ไปคิดเรื่องอื่น ถ้ารู้ตัวเมื่อไร ก็ให้ดึงกลับมาที่ลมหายใจเข้าออกเสียใหม่ ส่วนคำภาวนา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ที่เราถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ เมื่อวานนี้มีการเฉลิมฉลอง เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ถ้าพวกเราพิจารณาดูก็จะเห็นว่า เมื่อพ.ศ. ๒๔๙๘ พระองค์ท่านประสูติเป็นเจ้าหญิงพระองค์น้อย ๆ ใต้พระบรมมหาเศวตฉัตรในพระราชวงศ์จักรี หลังจากนั้นก็มีอายุกาลผ่านวัย เจริญพระชันษาขึ้นมาเป็นเด็กโต เป็นหญิงสาว เป็นวัยกลางคน จนมาถึง ๖๐ พรรษาในปัจจุบัน

ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ถึงแม้พระองค์ท่านมีอิสริยยศ อิสริยศักดิ์สูงส่งถึงขนาดนั้น ก็ยังประกอบไปด้วยความไม่เที่ยงเป็นปกติ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในพระวรกาย อย่างในปัจจุบันนี้พระเกศาส่วนใหญ่ก็ขาวไปแล้ว พระราชภารกิจที่ประกอบอยู่ ก็ประกอบไปด้วยความทุกข์ เพราะต้องรับผิดชอบหนักกว่าเราหลายต่อหลายเท่า

พระองค์ท่านเคยตรัสว่า นอกจากเรื่องกินกับเรื่องเรียนแล้ว ที่เหลือพระองค์ท่านทำเพื่อคนอื่นทั้งหมด โดยเฉพาะทำเพื่อประชาชน ตามรอยพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ยกเรื่องกินกับเรื่องเรียนไว้ เพราะว่าทั้งสองอย่างเป็นพระประสงค์เฉพาะตน นอกเหนือจากความทุกข์ตามสภาพของร่างกายแล้ว เท่ากับพระองค์ท่านแบกรับความทุกข์ของคนทั้งประเทศ

เมื่อเป็นเช่นนี้เราก็เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่แต่เราเท่านั้นที่ทุกข์ คน สัตว์ วัตถุธาตุ สิ่งของทั้งหมด ล้วนแล้วแต่ประกอบด้วยความทุกข์เป็นปกติ แม้แต่องค์สยามบรมราชกุมารี ที่ประกอบไปด้วยอิสริยยศ อิสริยศักดิ์ พระองค์ท่านก็มีความทุกข์เป็นปกติ แล้วท้ายที่สุดก็ไม่สามารถที่จะอยู่ยงดำรงขันธ์ได้ มีการเสื่อมสลายตายพัง กลับคืนไปสู่ธาตุ ๔ ของโลกตามเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2015 เมื่อ 19:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 71 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา