"ตอนอาตมาขึ้นไปนี่ท่านกำลังคลำตัวเองอยู่ว่าทำไมเลือดออกเยอะมากอย่างนี้ ? เป็นอะไรมากหรือเปล่า ? เอ...เรายังคิดได้ แขนขาก็ไม่ได้เจ็บมาก จนทรงตัวไม่ได้ ก็กะว่าจะโทรเรียกรถพยาบาล แล้วท่านก็นึกขึ้นมาได้ว่า หลวงพ่อเพิ่งจะเปิดบันไดไปเร็ว ๆ นี้ ข่าววิทยุโทรทัศน์ลงหมดเลย อยู่ ๆ กูก็ตกบันได รถพยาบาลมารับนี่คงดังน่าดูเลยนะ ท่านก็เลยตัดสินใจโทรเรียกหลวงพ่อแทน เพราะโทรเรียกคนอื่นกลางคืนเขาปิดเครื่องกันหมดแล้ว
เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอาตมาเอง ดันลืมปิดเครื่อง ปกติ ๖ โมงเย็นก็ปิดเครื่องแล้ว ก็เลยต้องฝ่าฝนขึ้นไป ไปก็ช่วยประคองท่าน น้ำหนักท่านลดไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ ๑๐๓ กิโลกรัม เหลือแค่นะ...! อาตมาเองก็เอาท่านเข้าปีก จับแขนซ้ายท่านเข้าบ่าไว้ แล้วก็มือขวาจับรัดประคดเอว เกร็งเอาไว้ไม่ให้ท่านทรุด ก็ค่อย ๆ เดินลงมา เดินลงมาเท่าไรพระเราก็ยังไม่มาเสียที ไปอยู่ไหนกันวะ ? ท้ายสุดก็ตะโกนเรียก มีเสียง “มาแล้ว ๆ” หอบแฮก ๆ มา
ปรากฏว่านอกจากท่านไปตามพวกมา ๔-๕ รูปแล้ว ท่านยังไปเอารถมาด้วย ท่านก็รอบคอบดี แต่ความที่ตัวเองก็ขึ้นเขาไม่เก่ง แล้วก็ยังมัวทำโน่นทำนี่อยู่ อาตมาก็พาท่านแบงค์ลงมาจนถึงช่วงที่ ๑๐ แล้ว จากประมาณสี่ทุ่มกว่าฝนก็กระหน่ำตลอด ลงมาถึงข้างล่างเที่ยงคืนกว่า พอเอาท่านขึ้นรถปรากฏว่าท่านด้าย (พระธิติวัส ชยวุฑฺโฒ) เป็นคนขับ ท่านก็คงไม่ชินกับระบบรถอินเดียของ TATA ท่านเบรกแต่ละทีนี่หัวทิ่มหัวตำเลย ก็เลยบอกท่านว่า "ไม่ไหวว่ะ..ถ้าขืนไปแบบนี้คนเจ็บตายก่อน" อาตมาก็เลยต้องไปปลุกน้องเล็ก (จิราพร) ให้มาช่วยขับรถที"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2018 เมื่อ 17:25
|