อย่างพระอาจารย์ทูล วัดป่าบ้านค้อ ท่านบอกว่าทำอย่างไรที่จะหยุดกระแสได้ พอหยุดกระแสได้ คราวนี้ทำอย่างไรจะตัดกระแสขาด แล้วคราวนี้ทำอย่างไรจะข้ามกระแสพ้น
ในลักษณะเดียวกัน พอมีสมาธิหยุดยั้งได้ ปัญญาก็จะเกิด เราจะหาช่องทางได้ว่าทำไมตรงนี้จึงสร้างความเดือดร้อนให้กับเรา เราก็จะเห็นว่า ตาที่เห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจครุ่นคิด จะเกิด ๒ อารมณ์คือชอบกับไม่ชอบ ชอบก็เป็นโลภะกับราคะ ไม่ชอบก็เป็นโทสะกับโมหะ กินใจเราทั้งคู่
ทำอย่างไรที่เราจะไม่ให้ทั้งสองอย่างนี้เกิด ก็คือหยุดอยู่กับตอนนี้..เดี๋ยวนี้..ไม่ไปคิดต่อ ไม่ไปปรุงต่อ ในเมื่อเราสามารถทำถึงตรงนี้ได้แล้ว สามารถที่จะหยุดโดยอัตโนมัติได้ทุกครั้ง ก็แสดงว่ากำลังเราพอ ทันทีที่รู้ว่าอันตรายก็หยุด...ทันทีที่รู้ว่าอันตรายก็หยุด ถ้าอย่างนี้เราถึงจะมีโอกาสที่จะหลุดพ้นได้ แต่ถ้าหากว่ากำลังไม่พอ อย่าว่าแต่เห็นช่องทางเลย หยุดก็ยังหยุดไม่ได้ เอาตัวไม่รอด ดังนั้น..ต้องเร่งการปฏิบัติให้มากขึ้นไปอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2011 เมื่อ 17:58
|