ดูแบบคำตอบเดียว
  #11  
เก่า 13-12-2011, 09:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,369 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เณรตัวแสบของเรา ๔ รูป จะว่าไปก็น่าสงสาร ชอบรังแกเณรน้อง ๆ พอเณรรุ่นน้องรวมหัวกันอัดเข้า เณรรุ่นพี่สู้ไม่ได้ก็ดันไปตามรุ่นพี่มาตีน้องอีก ก็เลยจับแยกกัน ไปนอนอยู่ที่ป่าช้า อาตมาบอกเณรทั้งสี่ว่า "เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพวกเอ็ง กลางค่ำกลางคืนไม่ต้องออกมาหรอก ถึงผีไม่หลอกก็งูกัดตายห่_ เพราะไอ้จงอางยักษ์มันอยู่ในป่าช้า..!"

ตอนเช้าก็เลยอบรมว่า "ถ้าเป็นสมัยก่อนพวกเราจะตายเปล่า ตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊กแบบนี้ ไม่จัดเป็นนักเลงหรอก กลายเป็นพวกกะเฬวรากมากกว่า คนจะนักเลงจริงต้องคุ้มครองคนอ่อนแอ และถ้าใครมารังแกถึงจะสู้ แล้วถ้าสู้ก็สู้แบบไว้ลายให้ระบือลือลั่นไปเลย ไม่ใช่เวลาเจอคนอ่อนแอก็ไปรังแกเขา ไอ้อย่างนั้นไม่ใช่นักเลง"

พร้อมกับเล่าเรื่องนักเลงโบราณให้เขาฟัง ว่าเขาหนังเหนียวอย่างไร กำลังใจแบบไหน ใจถึงพึ่งได้ ต้องศึกษาเล่าเรียนคาถาอาคม ใช้สมาธิอย่างไร สุดท้ายก็หลอกให้เณรภาวนากันต่อไป เอาคาถาไปคนละบท

ส่วนญาติโยมใส่บาตรกันน่าชื่นใจมาก แต่ละวัน ๆ พวกข้าวสารอาหารแห้งได้มาเป็นคันรถ ๆ ขนาดเขาใส่กันคนละนิดละหน่อย ใส่บะหมี่รูปละ ๑ ซอง จนถึงท้ายแถวก็เท่ากับบะหมี่ ๕ ลัง กว่าจะบิณฑบาตกลับวัดได้ ๐๙.๑๕-๐๙.๓๐ น. โดนแดดเผาเสียเกรียมไปตาม ๆ กัน ช่วงนั้นแดดแรงมาก เพราะว่าทองผาภูมิหนาว หน้าหนาวแดดจะแรง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 13-12-2011 เมื่อ 17:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา