พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงนี้อาตมาหัวหมุนอยู่กับคนป่วยและคนตาย เดี๋ยวพ่อคนโน้นป่วย แม่คนนี้ตาย ให้ยุ่งไปหมด พยายามไปแค่ที่ไปได้ เมื่อเช้าลูกน้ำบอกว่า “นิมนต์หลวงพ่อไปฉันเพลที่บ้าน” บอกลูกไปว่า “ไม่ไปหรอก กว่าจะได้กินมื้อหนึ่งวิ่ง ๓๐๐-๔๐๐ กิโลเมตร เหนื่อยตายห่.. ซื้อข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อกินง่ายกว่า..!”
ขนาดอาตมาไม่รับนิมนต์ส่วนตัว ยังไม่มีเวลาจะหายใจเลย ขืนไปรับเข้า ใคร ๆ ก็อยากให้ไป ก็ไม่ต้องไปไหนกันพอดี เมื่อ ๑-๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางด้านคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ขอให้ท่านนายกฯ จิรชัย ที่อยู่ในพื้นที่ท่าขนุนวิ่งมานิมนต์ บอกว่า “โยมแก่แล้ว ไปบ้านเติมบุญไม่ไหว ช่วยไปหาโยมที่บ้านสักครั้งหนึ่งเถิด”
คุณหญิงฝากคนมาทำบุญทุกเดือน แต่ว่าตัวเองมาไม่ไหว เป็นภรรยาของพลตำรวจเอกพจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงอยู่ ท่านไปวัดท่าซุงประจำ พอไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ไปวัดท่าซุงไม่ไหว อยู่ตรงนี้ใกล้บ้านหน่อยก็ฝากเขามา บอกว่า “ช่วยไปให้เป็นมิ่งขวัญและกำลังใจของโยมสักทีหนึ่งเถิด” ก็บอกท่านไปว่า “บ้านโยมรถติดตายชัก อาตมาไม่ไปหรอก” ท่านบอกว่า “ขอให้บอกว่าจะไปวันไหน เดี๋ยวให้เขาส่งรถนำมารับ” ดีเหมือนกันนะ ไปแล้วต้องใช้บัตรเบ่ง กลัวรถติด ต้องเอารถฉลามบกนำหน้า ..(หัวเราะ)..”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2019 เมื่อ 02:55
|