ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 21-03-2017, 09:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,705
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อภาวนาไปจนอารมณ์ใจทรงตัวเต็มที่ รู้สึกว่าไปต่อไม่ได้แล้ว เมื่อกำลังคลายใจตัวออกมา ให้รีบหาวิปัสสนาญาณมาพิจารณา อย่างเช่นว่าการดูว่าร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง และสลายตัวไปในที่สุด

ระหว่างที่ดำรงชีวิตอยู่ก็มีแต่ความทุกข์ ท้ายสุดก็ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา เสื่อมสลายตายพัง กลับคืนเป็นสมบัติของโลกไปตามเดิม ถ้าเราไม่หาวิปัสสนาญาณให้คิด สภาพจิตที่มีกำลังจากการภาวนา จะเอากำลังเหล่านั้นไปฟุ้งซ่าน และจะทำฟุ้งซ่านไปใหญ่โตชนิดหยุดไม่ได้ ห้ามไม่อยู่

ดังนั้นทุกครั้งที่ภาวนาแล้ว เมื่อคลายกำลังใจออกมาให้พิจารณาไว้เสมอ เมื่อพิจารณาจนสภาพจิตทรงตัว ก็ย้อนกลับไปภาวนาใหม่ ต้องทำอย่างนี้สลับกันไปสลับกันมา จึงจะมีความก้าวหน้าตามที่เราต้องการ

ลำดับต่อไปให้ทุกคนภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2017 เมื่อ 11:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา