ดูแบบคำตอบเดียว
  #422  
เก่า 04-03-2020, 16:40
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

พระธรรมเทศนาขององค์หลวงตา

ว่าด้วยความรู้ปริยัติในภาคปฏิบัติ

อนัตตลักขณสูตรภาคปฏิบัติ

“... รูปัง อนัตตา เวทนา อนัตตา สัญญา อนัตตา สังขารา อนัตตา นั่นเห็นไหม อนัตตลักขณสูตรน่ะ อันนั้นก็อนัตตา อนัตตา ปล่อย ๆ อย่ายึด ปล่อย ๆ เรื่อย ๆ อันนี้ก็ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีแต่ขวากแต่หนาม มีแต่ฟืนแต่ไฟ ปล่อย ๆ อย่าเหยียบอย่าย่าง อย่าไปแตะ อย่าไปจับ อย่าไปยึด ถ้าไม่อยากให้ถูกเผาทั้งมือนั่น พูดง่าย ๆ ว่างั้น เหมือนกับว่าตีข้อมือไว้ เอา.. ก้าวนี้ ตีขาไว้.. ก้าวไปตรงนี้อย่าก้าวไปตรงนั้น ก้าวไปเรื่อย เอาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นทางเดินพิจารณานี้ ปล่อยไปเรื่อย เข้าใจเรื่อย ๆ นั่น วุสิตัง พรัหมจริยัง กตัง กรณียัง นาปรัง อิตถัตตายาติ ปชานาตีติ ท่านถึงรู้ว่าจะว่าไง แต่พูดตามความจริงนี้ ผมก็พูดได้แค่นั้นละ

สำหรับ อนัตตลักขณสูตร ถ้าหากเราจะพูดตามสูตรนี้จริง ๆ สำหรับจิตผมนี้ไม่สนิทนะ แต่อาทิตตปริยายสูตร ผมลงร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เพราะภาคปฏิบัติเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นี่ ผมว่าถ้าจะคิดว่าท่านเทศน์มามาก แล้วท่านย่นเอามานี้ผมก็ไม่สนิทใจ มันเลยไปลงเอาผู้ที่จดจารึกเสียมากนะ ผู้จดจารึกเป็นคนประเภทใด นั่น.. ถ้าเป็นพระอรหันต์จดจารึกแล้วจะเต็มภูมิ เหมือนอย่างอาทิตตปริยายสูตร อันนั้นผมหาที่แย้งไม่ได้เลย ภาคปฏิบัติลงได้อย่างสนิทร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่นี้ไม่เป็นอย่างนั้น อนัตตลักขณสูตรนี่ไม่ลงจิตนี่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อนัตตา พออันนี้เป็น อนัตตา แล้วเบื่อหน่ายไปเลย นิพพินทัง วิรัชชติ วิราคา วิมุจจติ ไปเลย คือเมื่อเบื่อหน่ายในอาการทั้งห้านี้แล้วย่อมคลายกำหนัด เมื่อคลายกำหนัดแล้วย่อมหลุดพ้น

เบื่อหน่ายเพียงห้านี้หลุดพ้นได้ยังไง ถ้าภาคปฏิบัติมันไปกองอยู่ในจิตนั้นน่ะ เห็นได้ชัด ๆ ในภาคปฏิบัติ เราเป็นอย่างนี้นี่นะ คือเอาความจริงนี้ออกมายันกัน พอถึงอาทิตตปริยายสูตร แหม แจงละเอียดมากนะ จักขุสมิงปิ นิพพินทติ รูเปสุปิ นิพพินทติ คือเบื่อหน่ายทั้งทางรูป ทั้งทางตา ทั้งทางเสียง ทั้งทางหู ย้อนหน้าย้อนหลังเรื่อย ๆ ตลอดถึงสิ่งที่มาสัมผัสสัมพันธ์กัน ทำให้เกิดสุขบ้าง ทุกข์บ้าง อะไรบ้าง .. เลยเบื่อหน่าย ๆ ไปหมด ทั้งสุขทั้งทุกข์เรื่อยไปจนกระทั่งถึง มนัสมิงปิ นิพพินทติ ธัมเมสุปิ นิพพินทติ แล้วก็ วิญญาเณปิ นิพพินทติ ว่าไปหมด เบื่อหน่ายในจิต เบื่อหน่ายในธรรม คือสิ่งที่มาสัมผัสกับจิต อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากจิตเบื่อหน่าย แล้วเมื่ออารมณ์เกิดขึ้นจะเป็นสุขเป็นทุกข์ เป็นเวทนาอะไร ๆ ขึ้นมา.. เบื่อหน่ายหมด ๆ แน่ะ ละเอียดมากนะ เข้าถึงจิตแล้วนี่ เบื่อหน่ายเข้าถึงจิตแล้วก็ถึงธรรมซิ ธรรมก็หมายถึงอวิชชาอยู่ในนั้น จะว่าไงเข้าถึงนั้นหมดเลย จนแตกกระจายไปแล้ว นิพพินทติ วิรัชชติ เรื่อยไป นี้ลงเต็มที่ผม แต่อนัตตลักขณสูตรนี้ไปถึงขันธ์ ๕ ไปนั้นหมด ...

อนัตตลักขณสูตรแจงไปถึงขันธ์ ๕ จบแล้วก็ไปเลย เบื่อหน่ายจิตนั่นยังไม่ถึง เอ๊.. ทำให้คิดไปถึงเรื่องผู้รจนานี้ ทำให้คิดไปหลายแง่เหมือนกันนะทุกวันนี้ ตั้งแต่ก่อนผมไม่ได้คิดอะไรมากนักนะ แต่เกี่ยวข้องกับผู้รจนาคัมภีร์เหล่านั้น ๆ เป็นคนประเภทใด ถ้าเป็นประเภทอรหันต์แล้วจะถึงใจ ๆ มาโดยลำดับเลย เพราะเอาความจริงออกมา อันนั้นกางมา ความจริงอันนี้อยู่ในหัวใจนี้ มันวิ่งถึงกันปั๊บ ๆ ประสานกันอย่างนี้ ทีนี้เอาแต่ความจำ ท่านว่าอะไรเอาแต่ความจำเข้าไปใส่มัน ไม่มีคุณค่า มันหลุดมันขาด มันตกไปได้นี่ ถ้าลงความจริงฝังอยู่ในหัวใจแล้ว ว่าไปตรงไหนมันสัมผัสสัมพันธ์กัน ประสานกันอย่างนี้ ๆ มันก็เต็มเม็ดเต็มหน่วย

เอ้า.. เรายกตัวอย่างเช่น เราจะไปเขียนประวัติของพระอรหันต์ เอาลองดูซิ เพียงความจำเรานี้ จะเขียนประวัติของพระอรหันต์ให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเป็นไปไม่ได้ ผมว่างั้นเลย ถ้าเป็นพระอรหันต์เขียนประวัติของพระอรหันต์แล้วเต็มหมดเลย แน่ะ เพราะความจริงเป็นอันเดียวกัน ท่านผ่านไปแล้วก็ตาม ความจริงอันนี้รู้กัน อยู่นี้มันไม่ผ่าน วิ่งถึงกันได้ปุบ ๆ ๆ เลย แน่ะ..นั่นซิ..ตอนถึงขั้นธรรมละเอียดละซิ ตอนมันจะไปไม่ได้ เอาเพียงความจำเฉย ๆไปไม่ได้ ถ้าไม่มีความจริงเป็นเชื้อวิ่งถึงกัน ประสานกันกับประวัติของท่าน นั่นน่ะมันสำคัญ..”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-03-2020 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา