ดูแบบคำตอบเดียว
  #34  
เก่า 24-12-2009, 13:32
ป้านุช's Avatar
ป้านุช ป้านุช is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,675 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
ป้านุช is on a distinguished road
Lightbulb

ธัมมวิจัยจากคำสอนสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ หลวงพ่อ(๒)


พระโสดาบัน พระสกิทาคามียังมีอารมณ์ ๒ อยู่ แต่อยู่ในขอบเขตของอธิศีลและกรรมบท ๑๐
จึงไม่สามารถทรงอารมณ์สังขารุเบกขาญาณให้อยู่กับจิตได้ตลอดเวลา
เหมือนกับพระอนาคามีผลและพระอรหัตผล จิตเจริญระดับไหนก็รู้ธรรมได้ในระดับนั้น


หลวงพ่อฤๅษีท่านแสดงธรรมจุดนี้ในขณะที่ขันธ์ ๕ ยังทรงอยู่
คือ ตอนท่านป่วยหนักครั้งใด อารมณ์จิตของท่านยิ่งสงบเย็นและเป็นสุขมากเท่านั้น
หรือเป็นสุขมากกว่าธรรมดา เพราะท่านมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
จิตท่านแยกจากกายได้ตลอดเวลา เวทนาทางกายจึงทำอะไรจิตท่านไม่ได้


ท่านมีมรณาและอุปสมาอยู่กับจิตท่านทุกขณะจิต
และจิตของพระอรหันต์ท่านไม่เคยพลาดจากพระนิพพาน
ท่านเคารพในกฏของกรรม จึงไม่หนีกรรมที่ท่านทำไว้ในอดีต

ท่านเป็นผู้ไม่ประมาทในความตาย จึงมีมรณาและอุปสมานุสติอยู่ทุกขณะจิต
มีอารมณ์สังขารุเบกขาญาณหรืออารมณ์ช่างมันอยู่อารมณ์เดียวทรงตัว


เพราะมีอธิศีล อธิจิต อธิปัญญาสมบูรณ์ จึงวางสักกายทิฏฐิได้ถาวร
(สักกายทิฏฐิ พระท่านแปลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับร่างกาย)

ท่านจึงไม่มีอารมณ์เกาะกายหรือขันธ์ ๕ อันประกอบด้วยธาตุ ๔
มีอาการ ๓๒ สกปรก ไม่เที่ยง เต็มไปด้วยความทุกข์ เหมือนต้องติดคุกไปตลอดชีวิต
เหมือนต้องเลี้ยงลูกอ่อนตลอดชีวิต จึงเอาจิตทิ้งกายไปแดนที่ไม่มีการเกิดการตายอีกต่อไปอย่างผู้ฉลาด


จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐
ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง
เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2009 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา