ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 28-08-2011, 09:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,657 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายลังเลสงสัยว่า ตนเองปฏิบัติไปถึงไหน เมื่อภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวแล้ว ก็มาดูว่าขณะนี้นิวรณ์ ๕ กินใจเราหรือไม่ ? ศีลทุกสิกขาบทของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? สังโยชน์ ๑๐ มีข้อไหนที่ยังร้อยรัดจิตใจของเราอยู่บ้าง ?

หรือว่าอีกอย่างหนึ่งที่จะวัดได้โดยง่าย ก็คืออาการที่เรายังเป็นคนตกใจอะไรง่าย ๆ หรือเปล่า ? บุคคลที่สมาธิทรงตัว สติตั้งมั่นอยู่เฉพาะหน้า จะเป็นคนเหมือนกับตายด้าน ไม่ตกใจกับอะไรง่าย ๆ เหตุเพราะว่าการตกใจนั้น ก็คืออาการขาดสติ ส่งจิตออกนอก เมื่อเกิดเหตุอะไรกระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขึ้นมาโดยฉับพลันทันที ก็จะรีบดึงกำลังใจของตนเองกลับมาเพื่อรับรู้สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น การที่กำลังใจกลับมาเร็วจนเกินไป ทำให้ตั้งหลักไม่ทัน เขาเรียกว่าอาการตกใจ

ถ้าท่านทั้งหลายมีอารมณ์ใจทรงตัวจริง ๆ ไม่ว่าจะสถานการณ์ฉุกเฉิน เกิดขึ้นโดยกะทันหันขนาดไหนก็ตาม เราจะเป็นผู้มีสติตั้งมั่น ไม่ตกใจกับอะไรง่าย ๆ ซ้ำยังมองหาช่องทางที่จะแก้ไขจากร้ายให้เป็นดี ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายจะวัดตนเอง ก็ลองวัดดูว่า เรายังเป็นคนขี้ตกใจอยู่หรือเปล่า ?

ก่อนหน้านี้เราสะดุ้ง เราตกใจง่ายในทุกเรื่องหรือเปล่า ? แล้วปัจจุบันนี้อาการตกใจค่อย ๆ ห่างหายออกไป หรือยังมีมากอยู่เท่าเดิม หรือว่ามาถึงปัจจุบันนี้ เราเหมือนกับคนตายด้าน ไม่รู้สึกตกอกตกใจในเรื่องใดกับใครหรือเปล่า ? ถ้าพิจารณาตรงจุดนี้ ก็จะเห็นความก้าวหน้าเฉพาะของตน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2011 เมื่อ 13:00
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา