ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 02-06-2023, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,615
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,341 ครั้ง ใน 34,205 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหมือนอย่างกับกระแสสองสายวิ่งคู่ขนานกัน ใครอยู่ในกระแสสีขาวก็โดนดึงขึ้นข้างบน ใครอยู่ในกระแสสีดำก็โดนดึงลงข้างล่าง สำคัญตรงที่ว่าถ้าเราอยู่ผิดกระแส ก็ต้องรีบหาทางตัดข้ามมากระแสสีขาวให้เร็วที่สุด ส่วนคนที่อยู่ในกระแสสีขาวแล้วก็อย่าได้ประมาท เร่งรัดตัวเองเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุดเช่นกัน อย่างนี้เขาถึงเรียกว่าผู้ปฏิบัติธรรม

ไม่อย่างนั้นแล้วอย่างที่พวกเราทำอยู่เขาไม่เรียกว่าปฏิบัติธรรม เขาเรียกว่าทำตัวเป็นทาสกิเลส รู้จักทาสหมา ทาสแมวไหม ? ทาสกิเลสก็พอกันนั่นแหละ ก็คือพอถึงเวลากิเลสจะจูงไปทางไหนก็ไป พอจูงเราไปทำชั่ว ๆ แล้วก็จูงเราไปห่าง ๆ วัด เราก็ดันตามไปอีก ! อย่างนี้เขาเรียกว่า "โง่สองชั้น"..!

เพราะฉะนั้น..กิเลสจูงเราไปทำชั่วได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ สติ สมาธิ ปัญญา ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ โอกาสที่จะทำผิดทำพลาดย่อมมี แต่พลาดแล้วรีบแก้ไข อาศัยความผิดเป็นครู คราวหน้าจะได้ไม่ผิดตรงนั้นอีก สมัยนี้ผิดจนเป็นศาสตราจารย์ด็อกเตอร์กันไปตาม ๆ กัน ไม่ใช่ครูธรรมดานะ ครูมีตำแหน่งวิชาการสูงสุดด้วย..!

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เกิดขึ้น สาเหตุใหญ่ก็คือเรายังไม่เข็ด ไม่เกิดภยตูปัฏฐานญาณ คือยังมองไม่เห็นความน่ากลัวในวัฏสงสารนี้ ว่าการเวียนว่ายตายเกิดนั้น สร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่เราแต่ละชาติมากเท่าไร

ตูว่าเดี๋ยวพวกที่ฟังบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ถ้าหากว่ามาได้ฟังตรงนี้ต่อ มีหวังคงด่าเอาแน่ ๆ เลยว่า "ที่ดีแบบนี้ทำไมไม่พูดให้ฟัง" จะไปยากอะไร อยากฟังก็มาฟังที่วัด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2023 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา