กราบขอบพระคุณท่านพี่ และขอบคุณคุณตัวเล็กครับ
ขอเพิ่มเติมเนื้อหาว่าหลังจากได้อ่าน พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ ราชบุรีกถา ตำนานขุนไท ของหลวงปู่อ่ำแล้วก็กระจ่างชัด เกิดความเข้าใจว่า
๑. เมืองราดของพ่อขุนผาเมืองคือราชบุรี และมีความเกี่ยวเนื่องกับตำนานพระยากง-พระยาพาน และชื่อเมืองนครไชยศรี
๒. ขอมกับไทเป็นญาติสนิท ดั้งเดิมจริง ๆ ขอมเป็นครู (คล้ายวรรณะพราหมณ์) เป็นผู้รวบรวมศิลปศาสตร์ต่าง ๆ ไว้ รวมทั้งเป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์อักษรต่าง ๆ
๓. บรรพบุรุษของเรามีอักขระ ๒ ชุด อักขระชุดที่พัฒนามาเป็นอักษรไทยทุกวันนี้ เป็นชุดที่ใช้สื่อสารทั่วไป ส่วนอักษรขอมใช้บันทึกศิลปวิทยาการต่าง ๆ ครั้นบังเกิดพระพุทธศาสนาก็ใช้บันทึกพระธรรมจนบางท้องถิ่นพัฒนาและเรียกเป็นอักษรธรรม วัฒนธรรมการเคารพในธรรม ระมัดระวังแม้กับอักษรตัวหนังสือนี้ ครั้งคนเก่ายังเด็กยังพบเห็นสัมผัสการกราบไหว้หนังสือเป็นปกติ คนเก่ายังถูกสอนให้กราบขอขมาทันทีหากบังเอิญเท้าไปสัมผัสถูกหนังสือเข้า
๔. ผู้คนแถบเขมรโบราณเดิมเป็นชาวป่า ที่ขุนเทียนเกิดพบรักกับธิดาหัวหน้าเผ่า บังเกิดเป็นต้นตำนานพระทองกับนางนาค หรือพราหมณ์โกญฑัญญะกับธิดาพญานาค ต้นกำเนิดชาติเขมร แล้วจึงนำวิทยาการต่าง ๆ ไปสอนกระทั่งชาวเขมรเกิดวัฒนธรรมต่าง ๆ คล้ายวัฒนธรรมไท-ไทยมาก แม้กระทั่งอักษรก็นำอักขระขอมของไท-ไทยไปใช้
๕. ชาวอินโดนีเซียโบราณที่พบหลักฐานโบราณคดีว่าใช้วัฒนธรรมคล้ายขอมก็มีที่มาจากยุคสุวัณณภูมิ-ศรีวิชัยที่บรรพบุรุษชาวไท-ไทยแผ่อำนาจไปถึง นำวิทยาการต่าง ๆ ไปสั่งสอนชาวป่าท้องถิ่นไว้จนพัฒนาเป็นระบบสังคมที่ซับซ้อนเหมือนต้นตำรับ ยังปรากฎร่องรอยแม้ทุกวันนี้เช่นการกราบไหว้บูชาเทพเจ้าต่าง ๆ ของชาวบาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียกขานเทพเจ้าแห่งข้าวว่า เทวีศรี (แม่ศรี ?) ฮิ ๆ ศาสนาอื่นก็ครอบงำไม่ได้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 03:24
|