ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 17-04-2024, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,610
ได้ให้อนุโมทนา: 151,798
ได้รับอนุโมทนา 4,412,752 ครั้ง ใน 34,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้น กระผม/อาตมภาพเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าต้องวางกำลังใจอย่างไรบ้าง แต่ว่าญาติโยมส่วนหนึ่งก็มักจะวางกำลังใจผิด หรือไม่ก็เชื่อมั่นตัวเองมากจนเกินไป ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองนั้น ก็ไม่ได้ต้องการให้เขาไปทำในลักษณะอย่างนั้น

แต่ว่ามีบางท่าน บางคณะ ก็ไปภาวนาพระคาถาเงินล้านแข่งกัน พูดง่าย ๆ ว่าใครจะได้จำนวนจบมากกว่ากัน แล้วก็ไปอาศัยผลบุญจากพระคาถาเงินล้านนี้ในการเล่นหุ้นบ้าง ในการซื้อกองทุนต่าง ๆ บ้าง ปรากฏว่าเข้าเนื้อเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน..! เพราะลืมในส่วนที่กระผม/อาตมภาพบอกไปว่า ถ้าเราทำเพราะอยากได้ ผลจะโดนตัดไปเกือบหมด..!

แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพเคยนำเงินส่วนตัวก้อนหนึ่ง มอบให้กับโยมท่านหนึ่ง ซึ่งมีบุญสัมพันธ์กันมา บอกว่าให้โยมท่านนี้นำไปลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อมีบุญสัมพันธ์กันมา โยมท่านนั้นนำไปลงทุนเพียงครั้งแรก ก็มีกำไรมา ๒๐๐ กว่าดอลลาร์ ญาติโยมที่ภาวนาพระคาถาเงินล้าน พอทราบดังนั้นก็ขอทำหน้าที่นั้นแทน ด้วยการรับเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุน โดยที่พ่วงตนเองกับคณะเข้าไปด้วย โดยที่ไม่ทราบในเรื่องของบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์ตรงนี้มา คิดอยู่อย่างเดียวว่า จะอาศัยพ่วงกับกระผม/อาตมภาพ ให้ช่วยลากเขาทั้งคณะให้ทำกำไรได้ไปด้วย

ลักษณะอย่างนี้ต้องบอกว่าหาเรื่องเจ็บตัวอย่างชัดเจน เพราะอันดับแรก..ไม่ทราบในยถากัมมุตาญาน ก็คือไม่รู้ว่าตัวเองสร้างบุญสร้างกรรมอะไรมากับใคร แล้วจะคิดว่าได้กำไรเหมือน ๆ กันนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าบุคคลที่ร่วมบุญมา ถึงเวลาผลบุญก็ส่งผล ส่วนบุคคลที่ร่วมกรรมกันมา ถึงเวลาผลกรรมก็ส่งผล จึงทำให้เกิดการขาดทุนย่อยยับ เพราะไปย่ามใจว่ากระผม/อาตมภาพนั้น เป็นต้นทุนในการเล่นครั้งนี้

กระผม/อาตมภาพที่ต้องการจะพิสูจน์เรื่องของบุญเรื่องของกรรมว่า ถ้ามาทางด้านนี้จะไปได้หรือไม่ จึงต้องหยุด แล้วก็ถอนเอาเงินก้อนนั้นกลับคืนมา ปล่อยให้ทั้งคณะถลำไปคนละทิศคนละทาง ได้ยินว่าเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน..!

ดังนั้น..ในเรื่องของการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ส่วนที่ต้องจดจำเลยก็คือ อย่าทำเพราะความโลภ และจะต้องมีผลของทานบารมีคอยหนุนเสริมอยู่เสมอ ถ้าหากว่ามีบุญกุศลด้านอื่น ๆ หนุนเสริมด้วย ก็จะยิ่งดี เพราะว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรามาด้วย ก็คือศีล สมาธิ และปัญญา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2024 เมื่อ 14:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา