"บางสำนักอย่างหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เจ้าของเครื่องรางในตำนานก็คือ พิสมรวัดพวงมาลัย หลวงปู่แก้วหาวัสดุสร้างตะกรุดให้ลูกศิษย์ไม่ทัน ก็เอาสังกะสีมุงหลังคาศาลานั่นแหละ เอามาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เขียนยันต์แล้วม้วนเป็นตะกรุดให้ เพราะฉะนั้น...ใครไปเจอตะกรุดสังกะสีผุ ๆ นี่ โปรดอย่าได้มองข้ามเป็นอันขาด อาจจะมองข้ามของดีไปอย่างน่าเสียดาย
ถ้าไปเจอม้วนกระดาษเก่า ๆ มีเชือกผูกหัวผูกท้ายมา ก็อย่าไปคิดว่าใครมาทำอะไรเหลวไหล นั่นคือตะกรุดถุงปูนของหลวงปู่เต๋ วัดสามง่าม
ตะกรุดเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งที่ใช้ร้อยเชือกติดตัว ค่านิยมก็คือต้องแขวนไม่ต่ำกว่าเอว สมัยก่อนเป็นหนึ่งในเครื่องคาดราชศัสตรา ก็คือของขลังคู่กายพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งจะมีตะกรุด มีลูกสะกด เป็นต้น ถามว่าทำไมเครื่องรางของขลังกลายเป็นเครื่องคาดราชศัสตราติดพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ? ก็เพราะว่าสมัยก่อนเขาถือว่าพระต้องอยู่วัด
ดังนั้น...คนสมัยโบราณไม่ได้บูชาพระอยู่กับบ้าน เพราะเห็นว่าบ้านเป็นของต่ำ พระผู้บริสุทธิ์ไม่ควรที่จะอยู่ปะปนกับคน เพราะฉะนั้น...สมัยโบราณเมื่อออกรบอะไรเสร็จสรรพเรียบร้อย ถ้ามีพระติดตัวไป ถึงเวลาเลิกรบแล้วก็เอาพระไปคืนไว้ที่วัด ที่จะติดตัวอยู่ก็มีแต่พวกเครื่องรางเท่านั้น อย่างเช่นว่า ตะกรุด พิสมร แหวนพิรอด สายคาดเอว เป็นต้น ก็เลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องคาดราชศัสตรา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2017 เมื่อ 20:45
|