ดังนั้น...พุทธบริษัท ๔ ของเราในปัจจุบันนี้ ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่อุบาสกอุบาสิกาบริษัท ซึ่งจะช่วยเหลือค้ำจุนพุทธศาสนาของเรา อย่าได้แต่วิตกกังวล เครียด ว่าในสถานการณ์แบบนี้เราจะทำอย่างไรถึงจะช่วยศาสนาของเราได้ แต่ให้เราตั้งหน้าตั้งตาฝึกตน ให้เกิดฌานเกิดสมาบัติขึ้นมา
แม้ว่าโอกาสที่จะใช้ไม่มี ถ้าเราเกิดฌานสมาบัติ เกิดความคล่องตัวขึ้นมา อย่างน้อยคติคือที่ไปในเบื้องหน้าของเราก็จะมั่นคงขึ้น ถ้าท่านสามารถใช้กำลังของอภิญญาสมาบัติมาช่วยในการตัดกิเลสก็จะเป็นไปโดยง่ายขึ้น
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จึงขอฝากไว้ว่า ในฐานะอุบาสก อุบาสิกา ท่านทั้งหลายต้องรับผิดชอบพระพุทธศาสนาไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจึงเป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณร ในเมื่อเรารับผิดชอบอยู่ครึ่งหนึ่ง ภาระหน้าที่ซึ่งหนักหนานี้ ถ้าไม่มีกำลังของสมาธิ ของสมาบัติ ของอภิญญา เราก็ไม่สามารถจะทำหน้าที่ของเราให้ดีได้
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-11-2017 เมื่อ 11:19
|