ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 18-01-2018, 21:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อปัณณกปฏิปทาข้อที่ ๒ นั้น ท่านว่า โภชเนมัตตัญญุตา คือ รู้ประมาณในการบริโภค นักปฏิบัติธรรมจริง ๆ จะไม่มาห่วงใยกังวลกับเรื่องของอาหารการกิน โดยเฉพาะถ้าสมาธิทรงตัวแล้ว ความรู้สึกหิวแทบจะไม่มี ยิ่งถ้ามีปีติค้ำอยู่ บางทีอยู่ไป ๗ วัน ๑๕ วันโดยไม่รู้สึกถึงความหิวเลย

ฉะนั้น...ถ้าสมาธิของท่านทรงตัวจริง ๆ การกินอาหารเพียงมื้อเดียวหรือ ๒ มื้อก็มากเกินพอแล้ว ถ้าร่างกายไม่หนักด้วยอาหาร เลือดลมปลอดโปร่ง การภาวนาก็จะทรงตัวเป็นสมาธิได้ง่าย ถ้าร่างกายหนักด้วยอาหาร เลือดลมไม่โปร่ง การภาวนาก็จะมีแต่ความหนัก ความง่วงเหงาหาวนอนเป็นปกติ ทำให้เสียการปฏิบัติได้

อปัณณกปฏิปทาข้อสุดท้ายคือ ชาคริยานุโยค การปฏิบัติธรรมของผู้ตื่นอยู่ คำว่า ผู้ตื่น ในที่นี้คือ สติของเราสมบูรณ์ จะหลับ จะตื่น จะยืน จะนั่ง มีสติรู้สึกเท่ากัน บุคคลที่มีสติรู้เท่ากันทั้งหลับและตื่น จึงจะระมัดระวังใจไม่ให้ถูกกิเลสกินได้

เพราะว่าบางท่านในช่วงกลางวันเราระมัดระวังรักษาใจสุด ๆ ไม่ยอมละเมิดศีลไม่ว่าจะข้อใดก็ตาม กระทั่งมดแดงแมลงน้อยก็ไม่กล้าแตะ กลัวว่าจะเป็นการฆ่าสัตว์ แต่พอกลางคืนฝันว่าไล่ฆ่าเขาไปหลายคน บางท่านก็สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เต็มที่ ไม่กล้าพูด ไม่กล้ามองเพศตรงข้าม แต่กลางคืนกลับกลายเป็นว่า ฝันไปมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลนั้นบุคคลนี้ นี่คือลักษณะของกิเลสที่กินเราในยามหลับ

ถ้าหากว่าสติของเราสมบูรณ์พร้อมทั้งตื่นและหลับ เราจึงจะสามารถเอาชนะกิเลสเหล่านี้ได้ หรือสามารถป้องกันระวังไม่ให้กิเลสกินใจของเราได้ บุคคลที่จะทำถึงระดับนี้ก็ต้องทรงสมาธิ มีความคล่องตัวมาก อย่างน้อยก็สามารถเข้าออกในระดับปฐมฌานละเอียดได้ จึงจะรักษากำลังของผู้ตื่นอยู่ในแบบนี้ได้ตลอดเวลา

ถ้าท่านทั้งหลายสามารถทำตามทั้ง ๓ ข้อที่ว่ามา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า การปฏิบัติธรรมของท่านทั้งหลายมาถูกทาง ไม่ผิดไปจากที่พระองค์ตรัสไว้ เราจึงจะสามารถสะสมกำลังเอาไว้จนเอาชนะกิเลสได้

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2018 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา