ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 23-11-2014, 16:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,282 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของปัญญานั้น เราก็ต้องพินิจพิจารณาในหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้รู้แจ้งเห็นจริงและยอมรับตามนั้น ถ้าหากว่าพิจารณาตามหลักไตรลักษณ์ ก็ให้ดูว่าร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี ตลอดจนวัตถุธาตุทั้งหลายก็ดี มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง สลายตัวไปในที่สุด

มีความทุกข์เป็นปกติ ขณะดำรงชีวิตอยู่ก็เต็มไปด้วยความทุกข์ ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาจนหลับตาลงไป ท้ายสุดก็เห็นชัดว่าร่างกายนี้เป็นเพียงสมบัติของโลก ที่เรายืมมาใช้ชั่วคราว ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ เพราะว่าเป็นส่วนประกอบขึ้นมาจากธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ให้เราได้อาศัยอยู่ตามบุญตามกรรมเท่านั้น ถึงเวลาก็เสื่อมสลายไปตายพังไป กลับไปเป็นสมบัติของโลกตามเดิม

หรือจะพิจารณาตามหลักของอริยสัจ ดูให้เห็นว่าความทุกข์เกิดขึ้นจากอะไร แล้วเราไม่ไปสร้างสาเหตุนั้น ความทุกข์ก็ไม่เกิดขึ้นกับเรา หรือว่าจะดูตามนัยของวิปัสสนาญาณ ๙ เริ่มตั้งแต่ดูความเกิดและดับ หรือว่าเห็นเฉพาะความดับ หรือว่าเห็นเป็นทุกข์เป็นภัย เห็นเป็นความน่ากลัว เห็นเป็นของน่าเบื่อหน่าย เห็นเป็นของที่น่าไปเสียให้พ้น เหล่านี้เป็นต้น

ถ้าเราสามารถใช้ปัญญาพินิจพิจารณา จนกระทั่งสภาพจิตเห็นชัดเจนว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงโดยเฉพาะร่างกายนี้ มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ มีความทุกข์เป็นปกติ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้เป็นปกติ สภาพจิตยอมรับ ก็จะหมดความอยากในการมีร่างกายนี้ หมดความอยากในการเกิดมาในโลกนี้ เราก็จะสามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่า เราเข้าถึงความจริงแท้ของปัญญา สามารถทนต่อการพิสูจน์ได้

ดังนั้น...การเข้าถึงความจริงแท้ของศีล ของสมาธิ ของปัญญา ทนต่อการพิสูจน์ เหมือนกับทองคำแท้ที่ทนต่อการเผาผลาญของไฟ เราก็ต้องเป็นผู้ที่ยอมรับกฎของกรรม เห็นความธรรมดาในทุกสิ่งทุกอย่าง มีจิตใจอ่อนโยน พร้อมที่จะให้อภัยคนอื่นอยู่เสมอ ถ้าท่านทำเช่นนี้ได้ โอกาสที่ท่านจะก้าวล่วงจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานก็จะมีมาก

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2014 เมื่อ 17:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา