ดูแบบคำตอบเดียว
  #148  
เก่า 26-03-2012, 10:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,282 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็ก : อย่างที่เคยบอกว่า มีนักปฏิบัติอยู่จำนวนมากที่เข้าใจผิด อะไร ๆ ก็จะเอาแต่อนัตตา สุญญตา ถ้าไม่มีอัตตาก็เป็นอนัตตาไม่ได้หรอก ที่หลวงพ่อหนูของเราว่ามาก็เหมือนกัน คือถ้าเราไม่ได้อยู่ในกิเลส แล้วเราจะไปออกจากกิเลสได้อย่างไร เพราะฉะนั้น..ถ้าเราไม่มีอัตตาก็ไม่สามารถที่จะเป็นอนัตตาได้

การที่จะก้าวขึ้นไปสู่เบื้องสูงต้องค่อย ๆ ไต่ผ่านจากเบื้องต่ำไป หลายต่อหลายคนที่จะเอาแต่ธรรมะบริสุทธิ์ ขอยืนยันว่าคนพูดไม่เคยทำอย่างแน่นอน ถ้าคนพูดเคยทำจะรู้ว่าเราจะเน้นเอาธรรมะบริสุทธิ์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่า “สมมติ” ก็เป็นสัจจะ “ปรมัตถธรรม” ก็เป็นสัจจะ คือสมมุติก็เป็นจริงโดยสมมติ คือตัวเราชื่อนี้ นี่เป็นสมมุติ

แต่ขณะเดียวกันคำว่าตัวเราจริง ๆ ไม่มี ถ้าในสภาวะของปรมัตถธรรมก็คือสิ่งที่ประกอบขึ้นมาจากมหาภูตรูป ดิน น้ำ ไฟ ลม ให้เราอาศัยอยู่ชั่วคราว นี่เป็นปรมัตถสัจจะ คือความจริงแท้ เถียงไม่ได้ คราวนี้ที่ว่าตัวเราเป็นสมมติสัจจะ ก็คือจริงเฉพาะตอนนี้

ดังนั้น..บุคคลที่เข้าถึงธรรมะจริง ๆ จะไม่ปฏิเสธสมมติทางโลก แต่ขณะเดียวกัน กำลังใจของท่านก็อยู่กับปรมัตถสัจจะ ก็คือความจริงแท้ตลอดเวลา ท่านก็เลยอยู่กับโลกแบบน้ำกลิ้งบนใบบอน ก็คืออยู่กับโลก แต่ไม่ได้ติดในโลกเลย เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของการปฏิบัติ สถานที่ อากาศ อาหาร ตลอดจนเพื่อนสหธรรมิกต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ถามว่าขาดได้ไหม? ได้...การเข้าถึงธรรมยังมีอยู่ แต่ต้องใช้ความเพียรพยายามที่มากขึ้น

ฉะนั้น..จึงไปลงที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านย้ำเอาไว้ตอนท้ายว่า “ทำให้จริง” ในเมื่อทำจริงผลต้องได้แน่ ท่านบอกให้หวังเป้าสูงสุดไว้ก่อน ก็คือพระนิพพาน พอตะเกียกตะกายเต็มที่ ต่อให้ไม่ถึงนิพพาน ก็ไปได้ไกลเต็มสติเต็มกำลังของเรา แต่ถ้าเราไปตั้งความหวังไว้ต่ำ ถึงเวลาก็ไปได้น้อย ระยะทางที่เราจะหลุดพ้นก็ยาวไกลออกไปอีก

ดังนั้น..เมื่อได้ยินหลวงพ่อหนูบอกพวกเราแล้ว หลายท่านที่ปฏิบัติธรรม แล้วรู้สึกว่าทำไม รัก โลภ โกรธ หลง เหมือนกับแรงขึ้น ขอยืนยันว่าไม่ได้แรงขึ้นหรอก เท่าเดิมนั่นแหละ แต่กำลังใจของเราละเอียดขึ้น สัมผัสได้ชัดเจนขึ้น จงดีใจเถอะที่มีกิเลส เพราะจะทำให้เราเบื่อหน่าย และอยากจะไปให้พ้น ถ้าไม่มีกิเลส...เราไม่เบื่อ เราก็อาจจะอยากเกิดอีก

ถึงได้ว่าถ้าต้องการจะหลุดพ้น ก็ต้องคลุกคลีอยู่ในสถานที่นั้น แล้วก็ก้าวล่วงออกมา ไม่ใช่ว่าเราอยู่ข้างนอกแล้วเราก็บอกว่าเราอยากจะพ้น ๆ นั่นไม่อยู่ในฐานะที่เป็นไปได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2012 เมื่อ 17:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา