ดูแบบคำตอบเดียว
  #8  
เก่า 17-04-2022, 23:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,340 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ารู้จักพิจารณา เราก็จะเห็นอนิจจัง คือความไม่เที่ยง เป็นปกติธรรมดาของโลก พระพุทธเจ้าทรงตรัสยืนยันไว้ในบทธัมมนิยามปริตร

อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง ดูก่อน..ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตจะอุบัติขึ้นก็ดี

อะนุปปาทา วา ตะถาคะตานัง หรือว่าไม่อุบัติขึ้นก็ดี

ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา ธรรมทั้งหลายก็ตั้งมั่นทรงตัวอย่างนั้นอยู่แล้ว

ธัมมะนิยามะตา คำจำกัดความของคำเหล่านี้คือ

สัพเพ สังขารา อนิจจาติ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารนี่หมายถึงทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ดูศาลาหลังใหญ่ ๆ ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง ค่อย ๆ เก่า เดี๋ยวก็พังไปหมด

สัพเพ สังขารา ทุกขาติ สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ เรือนชานบ้านช่อง ภูเขา รถยนต์ เป็นทุกข์อย่างไร ? เป็นทุกข์ตามสภาพที่ก้าวไปสู่ความพังอยู่เสมอ เขาเรียกสภาวทุกข์

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ธรรมทั้งหลาย ก็คือสรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่มีอะไรยึดมั่นเป็นตัวตนเราเขาได้

ตัง ตะถาคะโต อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติฯ จนกระทั่งตถาคตบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2022 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา