ชื่อกระทู้: เทศน์สอนนาค
ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 01-10-2009, 16:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,109 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เราทั้งหลายจึงต้องระมัดระวัง รักษาสิกขาบททั้ง ๒๒๗ ข้อให้เคร่งครัด เราถึงจะได้เป็นพระสงฆ์ในบวรพุทธศาสนาอย่างแท้จริง แม้จะเรียกว่าพระสงฆ์ก็ตาม ก็ยังเป็นเพียงสมมติสงฆ์เท่านั้น ถ้าจะเข้าถึงความเป็นสงฆ์จริง ๆ อย่างน้อยเราต้องปฏิบัติตนให้เข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน

การเป็นพระโสดาบันนั้น จริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นฆราวาสเป็นได้ไม่ยาก เพราะว่าพระโสดาบันนั้น
๑. มีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง ๆ
๒. มีความเคารพในพระธรรมจริง ๆ
๓. มีความเคารพในพระสงฆ์จริง ๆ คำว่าเคารพในที่นี้คือเคารพด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ไม่ล่วงเกินทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๔. เป็นผู้มีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์ จึงได้กล่าวว่าฆราวาสเป็นง่ายกว่าเพราะมีศีลแค่ ๕ หรือ ๘ ข้อ แต่ว่าในความเป็นพระนั้นมีศีลถึง ๒๒๗ ข้อ ระมัดระวังรักษายากกว่ามาก
๕. พระโสดาบันมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอว่า ชีวิตนี้ก้าวเข้าไปหาความตายอยู่ตลอดเวลา เราเกิดมาแล้วต้องตายแน่นอน ถ้าหากว่าตายแล้วขอไปที่เดียวคือพระนิพพานเท่านั้น จะไม่มีการคลอนแคลนไปสู่สถานที่อื่นอีก


ถ้าหากว่ากำลังใจของเรามั่นคงอย่างนี้ เราก็สามารถเป็นพระโสดาบันอย่างหยาบที่สุด ที่เรียกว่าสัตตักขัตตุปรมะได้ แปลว่าถ้าหากเราต้องมาเกิด ก็เกิดอีกเพียง ๗ ชาติเท่านั้น

ถ้ากำลังใจเราละเอียดขึ้นไป ก็เป็นพระโสดาบันระดับกลางที่เรียกว่า โกลังโกละ แปลว่า จากตระกูลไปสู่ตระกูล คือ จากความเป็นมนุษย์ไปสู่ความเป็นเทวดา จากเทวดาลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกทีหนึ่ง พอตายแล้วเข้าสู่พระนิพพานจึงเรียกว่า จากตระกูลไปสู่ตระกูล คือเกิดเป็นคนสองครั้ง เป็นเทวดา ๑ ครั้งเท่านั้น

ถ้าหากว่าจิตใจละเอียดมากก็เป็นพระโสดาบันระดับสูงสุด เรียกว่า เอกพีชี แปลว่าผู้มีพืชอันเดียว ก็คือ เกิดครั้งเดียวก็เข้าสู่พระนิพพานเลย หมายความว่าตายจากความเป็นมนุษย์ไปสู่เทวดา เป็นนางฟ้าหรือเป็นพรหมอยู่ข้างบน แล้วก็บรรลุอรหัตผลเข้าสู่พระนิพพานไปเลย

พ่อนาคทั้งหลายเมื่อบวชเข้ามาแล้ว ขอให้ตั้งความปรารถนาสูงสุดไว้เลยว่า เราตั้งใจบวชเพื่อมรรคผลนิพพาน ถ้าหากไม่สามารถเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้ เราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงได้ เนื่องจากความเป็นพระเป็นเณรของเรานั้น มีศีลรักษามากกว่าฆราวาส การรักษาระวังยากกว่า แต่ถ้ารักษาได้ อานิสงส์ก็ได้มากกว่าเป็นแสนเท่า ดังนั้น..การที่เราบวชเข้ามาในช่วงระยะเวลา ๑ พรรษานี้ ขอให้ทุกคนถือเป็นโอกาสทองในชีวิต ที่เราจะได้สร้างสมกุศลบุญราศีของเราไว้ การสั่งสมบุญกุศลนั้นจะนำพาเราไปความสุขโดยสถานเดียว ดังมีพระบาลีเป็นหลักฐานว่า สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย การสั่งสมบุญย่อมนำมาซึ่งความสุข
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2010 เมื่อ 17:34
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา