ดังนั้น..ในส่วนของประเทศพม่าแล้ว จะให้ความสำคัญกับพระเป็นพิเศษ พระจะมีอำนาจชนิดสั่งการชาวบ้านได้ทุกอย่าง เพราะเขาถือว่าประเทศเขาได้มาก็เพราะพระ จึงให้สิทธิแก่พระมากกว่าปกติ
แต่ที่ประหลาดอยู่อย่างหนึ่งที่บ้านเราไม่มีก็คือเรื่องบวช อย่างบ้านเราบวชเข้ามาตามประเพณีบ้าง บวชเข้ามาเพื่อศึกษาบ้าง แต่ปัจจุบันพระพม่าส่วนใหญ่ที่บวชก็เพื่อต้องการจะหนีทหาร ถ้าไม่บวชก็ต้องเป็นทหารซึ่งลำบากมาก เขาจึงบวชกันมากเป็นพิเศษ ถึงเวลาก็สึกไป
ตรงที่สึกนี่แหละ ทำให้อาตมาเห็นว่าคนพม่าเข้าถึงธรรมได้มากกว่าเรา เพราะอย่างบ้านเราถ้าบวชตั้งแต่ ๑๐ พรรษาขึ้นไป มักจะเป็นคนแปลกแยกในสังคม แต่ถ้าพระพม่าสึกไป เขาก็คลุกคลีตีโมงกันอย่างชนิดที่ว่ากลืนกันสนิทได้ และถ้าพระรูปนั้นกลับมาบวชใหม่ เขาก็กราบไหว้บูชากันตามปกติ
แสดงว่าคนพม่าเข้าถึงธรรมมากกว่า เพราะเขาแยกออกว่า วาระนี้คุณเป็นฆราวาส วาระนี้คุณเป็นพระ เขาเล่นได้ตามบทบาท แต่พระบ้านเรา อย่างอาตมาบวชมา ๒๐-๓๐ กว่าพรรษา ถ้าไปสึกจะกลายเป็นแปลกแยกในสังคม ชาวบ้านจะมองแปลก ๆ ไม่ยอมรับในฐานะฆราวาสของผู้ที่บวชมานาน ๆ แต่ของพม่าเขากลืนไปกับสังคมเลย พอวิ่งกลับมาบวชใหม่ในวันนั้น เขาก็ให้ความเคารพนับถือเหมือนเดิม
ถือว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากในบ้านของเรา และชาวพม่านั้น เขาเข้าวัดกันเป็นปกติ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ละวันในวัดจะแน่นไปหมด เหมือนกับที่บ้านเราไปเดินห้างกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2011 เมื่อ 17:50
|